5 สิ่งควรทำ ในวันที่เพื่อนร่วมงานเจ็บป่วย

มนุษย์ทำงานหลายคนมีความเครียดตามติดยิ่งกว่าเพื่อนสนิทเสียด้วยซ้ำ แม้เราต่างรู้ดีว่าความเครียดนั้นส่งผลร้ายต่อทั้งร่ายกายและจิตใจ แต่ก็ห้ามปรามไม่ค่อยจะได้ หนักกว่านั้นบางคนสะสมความเครียดเอาไว้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว มารู้อีกทีก็ตอนที่ป่วยเป็นโรคไปเสียแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่ออฟฟิศของเรานั้นมักจะมีแต่เพื่อนร่วมงานที่่ป่วยเป็นสารพัดโรคที่เกิดจากความเครียด จำพวกออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน กระเพาะ กรดไหลย้อน หัวใจ รวมไปถึงโรคร้ายที่ไม่มีใครอยากเอ่ยถึงอย่างมะเร็ง…

แม้คุณไม่สามารถช่วยให้เพื่อนหายจากโรคเหล่านั้นได้ แต่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน การแสดงความปรารถนาดีและส่งกำลังใจให้เพื่อนนั้นเป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของคุณได้เป็นอย่างดี และ 5 วิธีเหล่านี้คือวิธีที่เราอยากแนะนำค่ะ…

1. แสดงความเห็นอกเห็นใจ: เมื่อไหร่ที่เห็นว่าเพื่อนเจ็บป่วย พยายามอย่าพูดจาซ้ำเติมทำนองว่า “ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม ใช้ชีวิตแบบนี้ก็เลยป่วยจนได้” หรือต่อว่าที่เพื่อนไม่สามารถจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ เช่น “เกิดแก่เจ็บตายมันก็เรื่องธรรมชาติ เธอน่าจะเข้าใจธรรมะมากกว่านี้หน่อยนะ จะได้ไม่ทุกข์” คุณต้องอย่าลืมว่าเรายังเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่เจ็บได้ร้องไห้เป็น สิ่งที่คุณควรทำเวลานี้คือแสดงความเห็นใจ ปล่อยให้เพื่อนแสดงความอ่อนแอหรือระบายความเจ็บปวดออกมาตามต้องการ ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ต้องถึงกับแสดงออกว่าตกอกตกใจหรือเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนจนโอเว่อร์เกินไป ไม่อย่างนั้นเพื่อนไม่สบายใจหนักกว่าเดิมแน่ๆ

2. แนะนำวิธีการรักษา: ลองแนะนำวิธีรักษาที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือให้กับเพื่อน เช่น อาจจะแนะนำให้เพื่อนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างการกิน การพักผ่อน การรักษาโรคด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน หรือแพทย์ทางเลือก โดยอาจแนะนำแพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคนั้นๆ ให้กับเพื่อนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ลึกรู้จริงในเรื่องนั้นๆ ก่อน ไม่ใช่แค่เคยได้ยินได้อ่านมาจากข้อความทางไลน์ หรือกูเกิ้ลอ่านจากเว็บที่ขาดความน่าเชื่อถือ

3. หยุดพูดแต่เรื่องด้านลบ: สิ่งที่คนป่วยต้องการที่สุดคือกำลังใจ บางครั้งเขาแค่อยากได้ยินว่า อาการที่เป็นอยู่นั้นสามารถรักษาหาย ดังนั้น อย่าตอกย้ำความกลัวของเขาด้วยการเอาแต่พูดเรื่องที่เขาไม่อยากได้ยิน เช่น โรคนี้สามารถลุกลามจนเป็นอันตรายถึงตายได้ หรือถ้าเป็นแล้วต้องกลับมาเป็นซ้ำอีกในอนาคต สิ่งที่เขาอยากได้ยินมากกว่าคือคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกเข้มแข็งและมีพลังที่จะต่อสู้กับโรค ถ้าไม่รู้จะพูดให้อย่างไร อย่างน้อยๆ แค่ทักเขาว่าช่วงนี้ดูสดใสขึ้นก็เพียงพอแล้ว

4. ปฏิบัติกับเขาให้เป็นปกติ: หลายคนที่ป่วยเป็นโรคอาจรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นว่า คนรอบข้างปฏิบัติกับเขาต่างจากเดิม เช่น คอยห้ามนู่นห้ามนี่ หรือเป็นกังวลแทนเมื่อเห็นเขาจะกิน จะเดิน จะออกแรง หรือทำอะไรด้วยตัวเอง จริงอยู่ว่าการคอยระวังเรื่องสุขภาพของเพื่อนเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม และแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยของเราได้ดี แต่หากมากเกินไป ก็อาจจะเป็นการตอกย้ำกับคนป่วยว่า “เขาคือคนป่วย” นั่นอาจจะยิ่งทำให้เขารู้สึกหดหู่มากยิ่งขึ้นได้

5. แนะนำให้เพื่อนวางแผนสุขภาพ: ในวันที่เพื่อนยังไม่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง เราอาจแนะนำให้เพื่อนวางแผนสุขภาพ ด้วยการทำประกันสุขภาพเอาไว้ล่วงหน้า เพราะยามที่เจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเรื่องค่าใช้จ่ายก้อนโต โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง ทุกวันนี้มีประกันสุขภาพดีๆ ซึ่งเหมาะกับมนุษย์ออฟฟิศมากมายให้เลือก อย่างเช่น ประกันมะเร็งพลัสคีโมของกรุงกรุงศรี ที่สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ จ่ายเต็มจำนวนสูงสุด 1,000,000 บาท และเคมีบำบัดสูงสุดครั้งละ 20,000 บาท ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน อย่าลืมเติมความจริงใจและความปรารถนาดีเข้าไปด้วย รับรองว่า กำลังใจของเราจะช่วยให้เพื่อนยิ้มได้แม้ในวันที่ร่างกายอ่อนแอแน่นอนค่ะ

หากต้องการวางแผนสุขภาพด้วยการทำประกันมะเร็งพลัสคีโม สามารถอ่านเงื่อนไขของการทำประกันได้ที่นี่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.