อดอาหาร บู๊สต์ระบบย่อย
ลองอดอาหารดูบ้างดีไหม เพราะการอดอาหารเป็นวิธีการเก่าแก่ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย และช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วเราอดอาหารกันอยู่ทุกคืน
Why it works!
การอดอาหารช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในขณะที่อดอาหาร ร่างกายจะได้รับแคลอรีน้อยลงซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของ ดร.โทนี่ สเตียร์ (Toni Steer) และ ดร.ซูซาน เจบบ์ (Susan Jebb) นักโภชนาการจากประเทศอังกฤษ ที่พบว่า การที่ร่างกายได้รับแคลอรีลดลงวันละ 500 แคลอรี จะช่วยให้น้ำหนักลดลงไปสัปดาห์ละ 1 กิโลกรัม
หนังสือ Never Be Fat Again บวกลบคูณหารให้เราดูว่าการงดอาหารเย็น 1 มื้อ หรืออดอาหารสัปดาห์ละ 1 วัน ทำให้ร่างกายโดยเฉพาะระบบย่อยอาหารได้พักผ่อน สามารถขับสารพิษและฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติได้ถึงปีละ 52 วัน
การอดอาหารยังเป็นการฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและเซลล์ทั่วร่างกายให้ได้พักผ่อน ทำให้มีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้มากขึ้น เมื่อทุกระบบแข็งแรง การย่อยและการเผาผลาญพลังงานก็ทำได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้น้ำหนักลดลง ส่งผลให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้นนั่นเอง
How - to
คนที่ไม่เคยอดอาหาร หรือยังกล้าๆ กลัวๆ เราขอแนะนำให้เริ่มจากการงดอาหารในกลุ่มที่ทำให้อ้วนหรือทำลายสุขภาพ เช่น ของหวาน ของทอดเนื้อสัตว์ใหญ่ ตลอดจนงดการปรุงรสจัด
หากอยากลองอดอาหารดู เราขอแนะนำวิธีอดอาหารที่ง่ายที่สุด ซึ่งปรับมาจาก สูตรสร้างตัวเองให้เป็นคนใหม่ใน 14 วันของ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต มีรายละเอียดดังนี้
ให้งดอาหาร แต่ควรจะดื่มน้ำอาร์ซี 1 แก้วตอนเช้ามืดเมื่อตื่นนอนแล้ว หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ดื่มน้ำมะนาคั้นสดๆ 4 ลูก ต่อจากนั้นให้ดื่มน้ำอาร์ซีแทนอาหารเช้า กลางวันเย็น ตลอดทั้งวันควรจะดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 4 แก้วหรือมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการอดอาหาร ขอให้ทำในช่วงที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว
เทคนิคเลิกกินตามใจปาก
การกินตามใจปากเป็นพฤติกรรมที่ทำให้อ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนใหญ่เรามักกินเพราะถึงเวลาอาหารบ้าง กินเพราะอาหารอร่อยยั่วลิ้นบ้าง บางคนกินเพราะไม่มีอะไรจะทำ บางคนกินแก้เครียด บางคนกินตามเพื่อน ตามสังคม เรากินกันด้วยสารพัดเหตุผล ซึ่งหลายๆ ครั้งไม่เกี่ยวกับความหิวเลย
หนังสือ Never Be Fat Again แนะนำว่า ให้เรียนรู้ที่จะกินในแบบที่ร่างกายต้องการจริงๆ มากกว่าเมื่อรู้สึกอยากจะกินการฝึกเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้นิสัยการกินอาหารตามใจปากถูกทำลายลงอย่างราบคาบ
Why it works!
เรย์มอนด์อธิบายว่า การกินอาหารตามใจขณะที่ร่างกายยังไม่ต้องการอาหารจริงๆ ทำให้อาหารส่วนเกินเหล่านั้นกลายเป็นภาระของระบบต่างๆ ในร่างกายส่งผลให้การเผาผลาญทำได้ไม่เต็มที่ ไขมันมหาศาลจึงหลงเหลืออยู่ แล้วเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยไม่จำเป็น
การกินอาหารเมื่อร่างกายต้องการจริงๆ มีประโยชน์ โรแกลโล (Roe Gallo) ผู้เขียนหนังสือ Perfect Body กล่าวว่าการกินอาหารเมื่อร่างกายต้องการจริงๆ มีผลทำให้ของเหลวในร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล กล่าวคือ มีอาหารให้แก่เซลล์อย่างพอเหมาะพอดี การเผาผลาญอาหารและกำจัดของเสียออกจากร่างกายก็จะทำได้ดีด้วย ทำให้ไม่มีพลังงานส่วนเกินที่ทำให้อ้วน
How - to
เรย์มอนด์แนะนำวิธีจัดการพฤติกรรมกินตามใจปากไว้อย่างน่าสนใจว่า
- กินอาหารเช้า เชื่อไหมคะว่า คนที่งดอาหารเช้ามีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่กินอาหารเช้าถึง 5 เท่าด้วยกัน เนื่องจากการงดอาหารเช้าทำให้เกิดความอยากกินอาหารในระหว่างวันมากขึ้น ทำให้ได้รับแคลอรีมากกว่าปกติถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ยังพบว่าการกินอาหารเช้าช่วยลดความอยากกินของว่างให้น้อยลงได้อีกด้วย
- เมื่ออยากกินอาหารโดยไม่หิว ลองหางานอดิเรกหรือออกกำลังกายที่ขณะทำไม่สามารถกินได้ เช่น งานตกแต่งบ้าน ปั่นจักรยาน เล่นดนตรี
- แปรงฟันและขัดฟันด้วยไหมขัดฟันทันทีหลังมื้อเย็นจะช่วยลดความอยากอาหารได้
- คิดไว้เสมอว่า อาหารเหล่านั้นจะอยู่ในปากแค่ 2 - 3นาที แล้วหลังจากนั้นเราอาจต้องมานั่งเสียใจทีหลัง