มะระ, มะระขี้นก, มะระจีน, กินมะระ, ประโยชน์ของมะระ

กินมะระ ขม…ข่ม เบาหวาน

กินมะระ ขมข่มเบาหวาน

กินมะระ อย่างไรให้ได้ประโยชน์

มะระเป็นผักสำคัญชนิดหนึ่งของครัวเอเชีย ทั้งไทย จีนและอินเดีย

ผิดกับชาวตะวันตกที่ไม่เคยลิ้มรสมะระ ครั้นพอได้ชิมก็แสดงทัศนะดัง ศาสตราจารย์ ดร.ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์ เล่าไว้ว่า

“ฝรั่งบอกว่า การกินรสขมๆ ของมะระได้อย่างเอร็ดอร่อยเป็น acquired taste คือเป็นความอร่อยที่ต้องเรียนรู้ ลิ้นใครยังไม่ได้รับการศึกษา กินไม่เป็นก็ไม่อร่อย”

เห็นจะจริงค่ะ เพราะสมัยยังเด็กก็ไม่ค่อยพิสมัยน้ำแกงจืด (ที่ขม) ของมะระเท่าไร แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นของชอบ กินทีไร คล่องคอ แถมรู้สึกเจริญอาหารขึ้นเยอะ

รสขม…ข่มเบาหวาน

นอกจากความอร่อยจากรสขมที่ชาวตะวันตกได้เรียนรู้แล้วเขายังทำการศึกษาต่อว่า สารอะไรที่ก่อให้เกิดรสขม เป็นประโยชน์หรือโทษต่อร่างกาย คำตอบที่ได้ในเวลาต่อมาคือมะระจีนและมะระขี้นก ขมก็เพราะมีสารแอลคาลอยด์ชื่อโมโมดิซิน (momodicine) ซึ่งนอกจากให้รสขมแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยเจริญอาหารและเป็นยาระบายอ่อนๆ

ภายใต้ผิวขรุขระของมะระขี้นกยังพบสารชาแรนทิน (charantin) และพอลิเพปไทด์-พี (polypeptide-p) ซึ่งมีฤทธิ์ลดเบาหวานได้ โดยจะไปกระตุ้นการเปลี่ยนกลูโคสในกระแสเลือดให้เป็นไกลโคเจนที่ตับ และกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน

จากผลการศึกษาทางคลินิกและจากรายงานทางการแพทย์ทางเลือกประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์แอฟริกาใต้ ฯลฯ แนะนำให้ใช้น้ำมะระคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะวันละ 3 ครั้งแก่ผู้ป่วยเบาหวานเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด

มะระ, มะระขี้นก, มะระจีน, กินมะระ, ประโยชน์ของมะระ
มะระ มีสรรพคุณทางยา ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

กินมะระเป็นอาหารและยา

มะระที่นำมาทำอาหารมีอยู่ 2 ชนิด คือ มะระจีน ลักษณะลูกโตยาว สีเขียวอ่อน ผิวมีรอยหยักเป็นร่องยาวทั้งลูก และ มะระขี้นก ซึ่งจะมีผลเล็กกว่ามะระจีน สีเขียวเข้ม ผิวขรุขระ

ทั้งสองชนิดมีรสขมเหมือนกัน แต่มะระขี้นกจะมีรสขมกว่ามะระจีน และมะระขี้นกยังนิยมนำมาใช้ในงานวิจัย โดยเฉพาะในประเทศไทย มากกว่ามะระจีน โดยเฉพาะในเรื่องสรรพคุณต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีและมะเร็ง แต่ก็ยังไม่อาจสรุปผลการวิจัยได้แน่นอน

คราวนี้ก็มาถึงหัวข้อสำคัญแล้วค่ะว่า เราจะกินมะระเพื่อลดน้ำตาลในเลือดอย่างไรให้อร่อย ชมนาดมีเมนูเด็ดๆ มาแนะนำ 2 เมนู

ยำมะระขี้นก

ส่วนผสม มีดังนี้ค่ะ

  1. มะระขี้นกซอยบางลวกในน้ำผสมน้ำเกลือ 3 ลูก (หรือมะระจีน 1 ถ้วย)
  2. กุ้งสับลวกสุก ½ ถ้วย
  3. มะเขือเทศผ่าซีก 1 ลูก
  4. แครอทซอย ¼ ถ้วย
  5. พริกชี้ฟ้าเหลืองสับ ½ เม็ด
  6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี ½ ช้อนชา

วิธีทำ เริ่มทำน้ำยำโดยโขลกพริกชี้ฟ้าและกระเทียมให้เข้ากันใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน พักไว้จากนั้นเคล้าส่วนผสมที่เหลือให้เข้ากัน แล้วราดน้ำยำลงไปเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน

น้ำชามะระขี้นกใบเตย

ส่วนผสม คือ

  1. มะระขี้นก 10 ลูก
  2. ใบเตยหั่นท่อนตากแดดให้แห้ง 3 ใบ
  3. น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  5. น้ำสะอาด 2 ถ้วย
  6. เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ ผ่ามะระขี้นกเป็นสองซีก คว้านเมล็ดออก หั่นตามขวางเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นต้มน้ำรวมกับมะระขี้นกและใบเตย เคี่ยวจนกว่าจะได้กลิ่นหอมของมะระและใบเตย ปิดไฟยกลง กรองเฉพาะน้ำ เหยาะเกลือป่น เติมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน ดื่มแล้วชุ่มคอค่ะ

จาก คอลัมน์ DIY มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 312 (1 ตุลาคม 2554)


บทความน่าสนใจอื่นๆ

4 อาหารไฟเบอร์สูง กินไม่อ้วน ต้านเบาหวาน

เทคนิคกินหวาน ต้าน โรคเบาหวานชะงัด

ฉลาดใช้เครื่องปรุงรส ลดเสี่ยงมะเร็ง เบาหวาน ความดัน

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.