Natural Viagra เพิ่มพลังทางเพศ
ไวอากร้า (Viagra) ไม่ใช่ยารักษาอาการกามตายด้านของคุณผู้ชาย และไม่ใช่ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศด้วย เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลายอย่าง ตามทีอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต ระบุไว้
ครั้นค้นข้อมูลจากวารสารวิชาการในปัจจุบัน ก็ได้รับรายงานถึงผลข้างเคียงจากยาชนิดนี้อย่างต่อเนื่องเช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง รู้สึกเจ็บปวดที่อวัยวะเพศ และหากกินยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้ตาบอดสีหรือเกิดความผิดปกติทางการมองเห็นได้
ด้วยผลข้างเคียงจากยาที่มีมากจนไม่คุ้มที่จะเสี่ยง นักวิจัยด้านสุขภาพจากหลายสถาบันจึงเสาะแสวงหาสารอาหารจากธรรมชาติมาช่วยแก้ไขอาการบกพร่องนี้
อิโนซิทอล – โฟลิก คืนความซู่ซ่าให้ผู้ป่วยเบาหวาน
โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction) เป็นโรคแทรกซ้อนที่พบทั่วไปในผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท หรือความเสื่อมของหลอดเลือดส่วนปลายบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติกิจได้ดังใจ ส่งผลกระทบด้านจิตใจและความสัมพันธ์ตามมา
เพราะมีสาเหตุมาจากโรคเรื้อรัง ดูเผิน ๆ จึงคิดว่าหมดทางเยียวยาแต่งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร European Review for Medical and Pharmacological Sciences ให้ความหวังว่า อิโนซิทอล (Inositol) ซึ่งจัดเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง และกรดโฟลิก (Folic acid) สามารถช่วยได้
นักวิจัยคัดผู้ป่วยโรคเบาหวาน 176 คน อายุ 50 – 70 ปี เฉพาะผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้โรคไต โรคตับ โรคทางจิตเวช หรือมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม
โดยผู้ป่วยจะได้รับอิโนซิทอลเสริมวันละ 4 กรัม และกรดโฟลิก 400ไมโครกรัม ระหว่างนี้ได้รับมอบหมายให้บันทึกกิจกรรมทางเพศร่วมด้วย
ข้อมูลที่ได้หลัง 12 สัปดาห์ พบว่า สมรรถภาพทางเพศของเหล่าอาสาสมัครมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพจิตของพวกเขาดีขึ้นด้วยนักวิจัยอธิบายว่า อิโนซิทอลช่วยแก้ไขความผิดปกติทางระบบประสาทที่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ส่วนกรดโฟลิก มีการศึกษาหลายฉบับยืนยันว่า มีผลช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เช่น รายงานสนับสนุน จากวารสาร Diabetologia พบว่า การเสริมกรดโฟลิกชนิดเดียวช่วยบรรเทาอาการได้ภายใน 6 สัปดาห์
อาหารคืนความซู่ซ่า
ข้าวแดง รำละเอียด ถั่ว เห็ด ยีสต์ ข้าวโพด แคนตาลูป
วิตามินซี ช่วยสเปิร์มแข็งแรง
กินวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 200 มิลลิกรัมช่วยเพิ่มปริมาณสเปิร์ม จากรายงานวิจัยของ The University of Texas Medical Branch ที่ศึกษาสิงห์อมควัน 75 คน อายุ 20 – 35 ปี พบว่า การสูบบุหรี่จัดส่งผลให้สเปิร์มมีปริมาณน้อยและไม่แข็งแรง
การทดลองทำโดยแบ่งอาสาสมัครเป็น 2 กลุ่มกลุ่มแรกได้รับวิตามินซี 200 มิลลิกรัม กลุ่มที่สองได้รับวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ส่วนกลุ่มสุดท้ายได้รับยาหลอกผลปรากฏว่า การเสริมวิตามินซีทำให้ปริมาณสเปิร์มเพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มที่ได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมงานวิจัยนี้นับเป็นอีกหนึ่งความหวังของผู้มีบุตรยากซึ่งมีสาเหตุมาจากฝ่ายชาย
อาหารเพิ่มจำนวนสเปิร์ม
ส้ม เชอร์รี่ ฝรั่ง มะกอกไทย มะขามป้อม มะละกอสุก สับปะรด มะเขือเทศ ตำลึง ดอกแค ใบทองหลาง ใบมะยมอ่อน ผักกระเฉด ผักกาดขาว ผักโขม ผักคะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แครอต แตงกวา ผักกาดขาว ถั่ว งา
แมงกานีส เพิ่มความตื่นตัวทางเพศ
อาจารย์สาทิสอธิบายว่า แมงกานีสเป็นแร่ธาตุสำคัญตัวหนึ่งใน 18 ชนิดซึ่งคนเราจำเป็นต้องมี ได้แก่แคลเซียม คลอรีน โครเมียม โคบอลต์ ทองแดง ฟลูออรีน ไอโอดีน เหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส
โมลิบดีนัม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม โซเดียม กำมะถัน วานาเดียม และสังกะสี
แร่ธาตุเหล่านี้ล้วนพบในเนื้อปลา ผักและผลไม้สดจากธรรมชาติ หากกินอาหารจากธรรมชาติเป็นประจำและหลากหลาย รับรองได้รับสารอาหารครบ กรณีที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาจารย์สาทิสแนะนำให้กินแร่ธาตุสำคัญให้ครบและเน้นอาหารที่อุดมด้วยแมงกานีส เพราะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นความตื่นตัวทางเพศและทำให้สมองผ่อนคลาย
มีรายงานสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่นว่า แมงกานีสช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศได้ดี จึงมีความตื่นตัวทางเพศเพิ่มขึ้น โดยแหล่งอาหารของแมงกานีสที่ดีคือ ผักโขม
แต่หากใครรู้สึกว่าช้า ไม่ทันกาล อาจารย์สาทิสแนะให้กินในรูปแบบเม็ดเสริม วันละ 1 เม็ดก็เพียงพอ
อาหารกระตุ้นความตื่นตัว
ผักใบเขียว ผักโขม หัวบีตรู้ต ข้าวซ้อมมือ อาหารจากแป้งไม่ขัดขาว อาหารประเภทถั่ว
วิตามินดีลดเสี่ยงเสื่อมสมรรถภาพ
การศึกษาจาก The Journal of Sexual Medicine พบความสัมพันธ์ระหว่างระดับวิตามินดีในเลือดกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โดยอาสาสมัครวัยกลางคนอายุ 50 ปี ผู้ที่
ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เดินเรียงแถวเข้าตรวจปริมาณวิตามินดีในเลือด
ผลปรากฏว่า พบผู้ป่วยถึงร้อยละ 45.9 มีระดับวิตามินดีในเลือด (serum 25-hydroxyvitamin D levels) ต่ำกว่า 20 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ส่วนกลุ่มที่ขาดวิตามินดีรุนแรง คือต่ำกว่า 10 นาโนกรัมต่อ
มิลลิลิตร มีถึงร้อยละ 5.6
แพทย์หญิงอเลสซานด้า บาราสซี (Alessandra Barassi) จากมหาวิทยาลัยมิลาน (University of Milan) ประเทศอิตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การขาดวิตามินดี
อาจมีผลเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศดังนั้นการได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอในแต่ละวันจึงเป็นสิ่งสำคัญส่วนการรักษา ควรตรวจวัดระดับวิตามินดีในเลือดของผู้ป่วยเป็นระยะและเสริมวิตามินดีตามความเหมาะสม โดยให้ควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน
อาหารลดความเสี่ยง
น้ำมันตับปลา โยเกิร์ต นอกจากนี้สามารถรับวิตามินจากแสงแดดยามเช้าและยามบ่าย (6 - 10 โมงเช้า และ 4 โมงครึ่ง – 6 โมงเย็น)
วิธีธรรมชาติ ช่วยชีวิตรักกระชุ่มกระชวย
เพราะกิจกรรมทางเพศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตรักและปัญหาครอบครัว มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) จึงรวบรวมวิธีฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย เรียกคืนสมรรถภาพทางเพศกลับมา ดังนี้
1. เดินเป็นประจำ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผยว่าการเดินออกกำลังกายวันละ 30 นาที ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ถึงร้อยละ 41ทั้งยังมีรายงานว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในชายวัยกลางคนที่ป่วยเป็นโรคอ้วนได้อีกด้วย
2. กินอย่างเหมาะสม การศึกษาชายสูงอายุในมลรัฐแมสซาชูเสตส์ (The Massachusetts Male Aging Study) ช่วยให้ได้ข้อสรุปว่า หากต้องการมีสุขภาพแข็งแรงมีพลังทางเพศดังปรารถนา ควรฟิตร่างกายด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี ปลาหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์สีแดง ธัญพืชขัดขาว และเน้นอาหารที่มีวิตามินบี 12 ร่วมด้วย โดยเฉพาะในวัยสูงอายุที่มักพบอาการขาดวิตามินดังกล่าวจากปัญหาเรื่องระบบดูดซึมมีรายงานว่า การขาดวิตามินบี 12 อาจนำไปสู่อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยวิตามินบี 12 พบในเนื้อปลาและอาหารทะเล
3. ใส่ใจสุขภาพหลอดเลือด เพราะหลอดเลือดช่วยลำเลียงสารอาหารไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงอวัยวะเพศ หากหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่นหรือผิดปกติอาจส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศได้
ดังนั้นควรหมั่นตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันและค้นหาโรคที่มีผลทำลายหลอดเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน เพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นผลจากกลุ่มโรคดังกล่าว
4. รักษาน้ำหนักตัวให้ปกติ ผู้ชายที่มีรอบเอว 42 นิ้วขึ้นไป มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มีแนวโน้มเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เรียกว่ายิ่งมีน้ำหนักมาก ยิ่งเสี่ยงเพราะโรคอ้วนนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน มีผลให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ทั้งนี้ไขมันปริมาณมากในร่างกายยังมีผลให้ฮอร์โมนต่าง ๆ รวมถึงฮอร์โมนเพศผิดปกติอีกด้วย
ฉะนั้นควรรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกติ โดยน้ำหนักที่เหมาะสมไม่ควรต่ำกว่าส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง คูณด้วย 18.5 และน้ำหนักไม่ควรมากกว่าส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง คูณด้วย 22.9 เช่น หากมีส่วนสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ควรต่ำกว่า 47 กิโลกรัม และไม่ควรมากกว่า 59 กิโลกรัม เป็นต้น
คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 392 (1 ก.พ.58)
บทความน่าสนใจอื่นๆ
“ความต้องการทางเพศ” แค่ไหนจึงพอดี
