อ้วน

เจาะลึก 5 ฮอร์โมนก่อ “อ้วน” สร้างสมดุลได้ หยุดอ้วนถาวร

Alternative Textaccount_circle
event
อ้วน
อ้วน

รู้หรือไม่คะว่า เบื้องหลังของความ อ้วน เกิดจากฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ซึ่งก็เกี่ยวพันกับพฤติกรรมการกินของเราเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่นร่วมด้วย ดังนั้นถ้ารู้จักปรับสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนหยุดเพี้ยนได้ เราก็จะสามารถ หยุดอ้วน หรือป้องกันอ้วนได้

ว่าด้วยเรื่อง อ้วน แพทย์หญิงพรเพ็ญ พงศทันธรรม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญภูมิแพ้และอาหารปรับฮอร์โมน เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “สุขภาพดีวันละ 1 นาที” จะมาเล่าถึงฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุความอ้วนให้ทราบกัน

ฮอร์โมนคืออะไร

คุณหมอพรเพ็ญอธิบายเรื่องของฮอร์โมนไว้ในหนังสือ ไม่อ้วนตลอดไป สำนักพิมพ์ Amarin Health ว่า ฮอร์โมนคือสารเคมีในร่างกายที่สร้างจากต่อมไร้ท่อในอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมองส่วนไฮโปทาลามัส ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต ต่อมไทรอยด์ ตับ ตับอ่อน รังไข่ อัณฑะ กระเพาะอาหาร ลำไส้ ผิวหนัง เป็นต้น

ฮอร์โมนเป็นตัวทำหน้าที่ส่งต่อ “คำสั่ง” เพื่อให้เซลล์ปลายทางทำงาน “ฮอร์โมนมีอิทธิพลต่อน้ำหนักตัวมากกว่าการได้รับพลังงานถึง 4 เท่า เพราะร่างกายไม่รู้จักคำว่า ‘แคลอรี’ ซึ่งเป็นหน่วยวัดพลังงาน แต่ร่างกายสามารถรับรู้ ‘ปริมาณหรือน้ำหนักอาหาร ชนิดพลังงานจากอาหารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และสารอาหาร’ ได้โดยผ่านตัวรับที่ผนังเซลล์หรือเซลล์ต่าง ๆ แล้วจึงสั่งฮอร์โมนตัวหลักคืออินซูลินให้ออกมาสะสมพลังงานและยับยั้งการเผาผลาญ

“นอกจากนี้ธรรมชาติของฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกิน เช่น ฮอร์โมนหิวชื่อเกรลิน (Ghrelin) และนิวโรเปปไทด์วาย (Neuropeptide Y) ฮอร์โมนอิ่มชื่อ เลปติน (Leptin) และโคลีซิสโตไคนิน (Cholecystokinin) รวมทั้งฮอร์โมนอื่น ๆ ทุกตัวอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมน ‘อินซูลิน’ ทั้งหมด

“ดังนั้นหากเข้าใจการกินและอาหารว่ามีผลต่อการดูแลฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างไร การกำหนดน้ำหนักตัวก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย เมื่อร่วมกับเข้าใจฮอร์โมนอีก 4 ตัว คือ คอร์ติซอล ไทรอยด์ เอสโทรเจน และโกร๊ธฮอร์โมน ก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น”

1. ฮอร์โมนอินซูลิน

สร้างจากกรดแอมิโนต่าง ๆ ในตับอ่อนอยู่ภายใต้การทำงานของระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกินอาหารและอดอาหาร คุณหมอพรเพ็ญอธิบายว่า “ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนหลัก ๆ คือฮอร์โมนอินซูลินที่เกี่ยวข้องกับการกินอินซูลินผลิตจากตับอ่อนมาดูแลอาหารที่เรากิน เมื่อกินอาหารแต่ละชนิด เช่น แป้ง ไขมัน โปรตีน อินซูลิน จะผลิตออกมาไม่เท่ากัน เช่น การกินอาหาร 100 แคลอรีเท่ากัน ถ้าเป็นแป้งร่างกายจะผลิตอินซูลินออกมา 10 เท่า โปรตีนผลิตอินซูลิน 3 เท่า ส่วนไขมันจะผลิต 0.5 เท่า

ดังนั้นถ้าอินซูลินหลั่งออกมาเยอะก็มีหน้าที่นำน้ำตาลซึ่งส่วนใหญ่มาจากแป้งเข้าไปในเซลล์ แต่คนส่วนใหญ่กินแป้งมาก ใช้ไม่ทัน พอใช้น้ำตาลไม่หมดก็เอาไปเก็บเป็นแป้งสะสมในตับในกล้ามเนื้อ แต่ปรากฏว่าสต๊อกในตับและกล้ามเนื้อ เต็มเพราะไม่ได้ใช้ อินซูลินจึงเปลี่ยนน้ำตาลที่เหลือเป็นไขมัน หรือถ้าโปรตีนไม่ถูกนำไปใช้ก็จะถูกเก็บไปเป็นไขมันเช่นกัน และอินซูลินนำไขมันไปเก็บในที่ที่ไม่ควรเก็บ คือ ช่องท้อง อวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น ผนังหลอดเลือด เป็นต้นเหตุของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ

นอกจากนี้ฮอร์โมนอินซูลินยังทำหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมายและเกี่ยวพันกับความอ้วน ได้แก่ รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เปลี่ยนน้ำตาลเป็นไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลตัวเลวที่มีรูปร่างเล็ก กระตุ้นการแบ่งเซลล์ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี เพิ่มการเก็บน้ำและเกลือไว้ในร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มหรือบวมน้ำ กระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอลและฮอร์โมนเอสโทรเจนให้เพิ่มปริมาณมากขึ้น ยับยั้งการเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน กระตุ้นฮอร์โมนหิวเกรลินให้ตอบสนองรุนแรง คือหิวมาก

“ยับยั้งฮอร์โมนอิ่มเลปตินจากเซลล์ไขมันไม่ให้ทำงาน คือทำให้ไม่รู้สึกถึงความอิ่มทำให้กินไปเรื่อย ๆ เป็นต้น”

2. ฮอร์โมนคอร์ติซอล

ฮอร์โมนชนิดที่ 2 ที่เกี่ยวพันกับความอ้วนคือ ฮอร์โมนคอร์ติซอล คุณหมอพรเพ็ญอธิบายว่า “ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนเครียดสร้างจากต่อมหมวกไต เป็นตัวการทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เพิ่มฮอร์โมนอินซูลินให้สูงขึ้น ซึ่งความเครียดนี้ส่วนหนึ่งมาจากภาวะจิต สมองของเรา ความคิดของเรา แต่ส่วนใหญ่ความเครียดเกิดจากการกินผิด ทำให้ร่างกายเครียด จิตใจเครียด

กินผิดที่เห็นได้ง่าย ๆ คือ กินแป้งและน้ำตาลเยอะ ระบบที่จะฟ้องว่าเกิดความเครียดก่อนเลยคือ ระบบทางเดินอาหาร บางคนท้องผูกอุจจาระไม่ออก เครียด กินน้ำตาลมาก ทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดไม่ดีเติบโต จุลินทรีย์ชนิดดีทำงานไม่ได้

เมื่อเครียดไม่เลิก ร่างกายจะสะสมฮอร์โมนเครียด เกิดการตอบสนองด้านลบ เรียกว่าภาวะดื้อคอร์ติซอล ร่วมกับต่อมหมวกไตล้าเพราะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากเกินไป ผลที่ตามมาคือ อ้วนลงพุง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง อยากอาหารหวาน เค็ม ไขมันสะสมที่แก้ม โหนกคอด้านหลัง อ่อนเพลีย

3. ฮอร์โมนเอสโทรเจน

คุณหมอพรเพ็ญเล่าถึงฮอร์โมนชนิดที่ 3 คือเอสโทรเจนว่า “ฮอร์โมนเอสโทรเจนมีรูปแบบการสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเครียด คือ ฮอร์โมนอินซูลินกระตุ้นให้สร้างฮอร์โมนเอสโทรเจนด้วย โดยฮอร์โมนเอสโทรเจนเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากไขมันที่เก็บไว้ นอกจากนี้ยังมีเอสโทรเจนแฝงเจือปนในอาหาร สัตว์ที่เลี้ยงโดยใช้ฮอร์โมน ยาคุมกำเนิดที่มาจากฮอร์โมนม้า พืชที่มีไฟโตรเอสโทรเจน สารคล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจนที่มาจากพลาสติก ยาฆ่าแมลง เครื่องสำอาง เป็นต้น

ปัญหาของเอสโทรเจนต่อความอ้วน โดยเฉพาะวัยทอง เราจะเรียกว่าความห่างของฮอร์โมน ธรรมชาติจะสร้างโพรเจสเทอโรนพร้อมกับเอสโทรเจนเพื่อมายันกันไว้ มาต้านฤทธิ์กัน เอสโทรเจนทำให้อ้วน โพรเจสเทอโรน
ทำให้ผอม ออกฤทธิ์ต้านกันไป

แต่คนส่วนใหญ่สร้างแต่เอสโทรเจน เพราะอะไร เพราะหากร่างกายมีระดับอินซูลินสูงจะสั่งให้สร้างแต่ฮอร์โมนเอสโทรเจน ไม่สร้างฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน ซึ่งโพรเจสเทอโรนสร้างจากต่อมหมวกไตโดยใช้ไขมันดี แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้กินไขมันที่ดีพอ จึงสร้างโพรเจสเทอโรนน้อย ร่วมกับยิ่งมีการหลั่งฮอร์โมนเครียด ก็ทำให้การสร้างโพรเจสเทอโรนน้อยลงเรื่อย ๆ

โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยทองที่สะสมฮอร์โมนอินซูลินเกินมาตั้งแต่อายุน้อย ๆ กินผิดมาตลอด มีความเครียดสะสมเรื่อยมา ทำให้ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความอ้วนพีคสุด ๆ คืออ้วนไม่หยุด

4. ฮอร์โมนไทรอยด์

ฮอร์โมนชนิดที่ 4 ที่คุณหมอพรเพ็ญอธิบายคือ ฮอร์โมนไทรอยด์
“ฮอร์โมนไทรอยด์ทำหน้าที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ปัจจัยอะไรที่ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานผิดปกติ นั่นคือ มีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน เอสโทรเจน คอร์ติซอลสูง จึงไปยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้น้อยลง

นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์เอ เช่น ภาวะอักเสบ ต่อมไทรอยด์โต คอพอก โรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันที่ไปกระตุ้นให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เหล่านี้จะส่งผลให้ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ การเผาผลาญลดลง ส่งผลต่อความอ้วนและการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว”

HORMONE BALANCE
ช่วยลดอ้วน ลดไขมันได้จริง

วิธีจะทำให้ฮอร์โมนสมดุลนั้น คุณหมอพรเพ็ญอธิบายว่า “จริง ๆ คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มอายุสั้นลงเพราะมีความผิดปกติของฮอร์โมนตั้งแต่เด็ก ๆ เกิดจากการกินอาหารแปรรูป อาหารที่ผ่านกระบวนการเลี้ยงด้วยฮอร์โมน อายุไม่เท่าไรก็เป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันกันแล้ว

ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้เพื่อลดปัญหาฮอร์โมนผิดปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนอินซูลินที่เป็นต้นเหตุของปัญหาหลายอย่าง คือ

  1. กินอาหารธรรมชาติจากแหล่งที่ปลอดภัย เช่น การเลี้ยงหรือปลูกแบบออร์แกนิก
  2. ไม่กินอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง กินน้ำตาลให้น้อยลง เพราะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มเร็ว กระตุ้นอินซูลินอย่างรุนแรง ผงชูรสทำให้สมองไม่รู้จักความอิ่ม น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีทำให้เกิดการอักเสบ
  3. ลดการรับสารเคมีปนเปื้อนจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ฮอร์โมน สี กลิ่น รสสังเคราะห์ สารกันบูด ยาฆ่าแมลง พลาสติก ทำให้ร่างกายอักเสบกระตุ้นฮอร์โมน เช่น เอสโทรเจน อินซูลิน

เหล่านี้คือกลไกการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวพันกับความอ้วน ซึ่งหากเรารู้ว่ามีสาเหตุจากอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลก็ควรกินแต่พอดี เพื่อสุขภาพโดยรวมและการป้องกันโรคอ้วนค่ะ

เรื่อง ชมนาด ภาพ iStock

ชีวจิต 533

บทความน่าสนใจอื่นๆ

แจก! เมนู อาหารว่าง ดีต่อสุขภาพ กินได้เรื่อยๆ ไม่ทำอ้วนลงพุง

จบปัญหา โรคอ้วน ลงพุง เพื่อหยุดสารพัดโรคที่จะตามมา

ไขข้อสงสัย 17 งานวิจัยเรื่อง โรคอ้วน และ อาหาร


ติดตามคำแนะนำจาก กูรูสุขภาพ ทำตามง่าย เห็นผลจริง คลิกเลย!
keyboard_arrow_up