โรคไต

กินเป็น ก่อนแก้ ช่วย ป้องกันโรคไต ในระยะยาวได้

ป้องกันโรคไต ด้วยการกินอาหาร

ผู้ป่วยโรคไตในปัจจุบันมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 17.6 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการจบต้นต่อการเกิดโรคไต การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อไตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะไตไม่ได้มีหน้าที่แค่ขับถ่ายของเสียเท่านั้น แต่รวมถึงการรักษาสมดุลต่าง ๆ ของร่างกายด้วย เมื่อไตแข็งแรงก็จะมีสุขภาพที่ดีด้วย มาดูคำแนะนำวิธีการ ป้องกันโรคไต จากผู้เชี่ยวชาญกันค่ะ

ว่าด้วยโรคไต

พญ.นลินี สายประเสริฐกิจ แพทย์อายุศาสตร์โรคไต ศูนย์โรคไต รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า คนเราจะมีไต 2 ข้างและทำหน้าที่ในการขับของเสียและดูดซึมน้ำ รักษาสมดุลเกลือแร่ กรดด่างของร่างกาย ควบคุมความดันโลหิต ผลิตฮอร์โมนควบคุมการทำงานของเม็ดเลือด รักษาสมดุลแคลเซียมต่างๆ เพราะฉะนั้นหากไตมีปัญหา จะทำให้ไตเกิดความผิดปกติทั้งหมด โดยโรคไตแบ่งออกเป็นไตวายเฉียบพลัน และ ไตวายเรื้อรัง

ไตวายเฉียบพลัน คือ การทำงานของไตที่ผิดปกติในช่วงเวลาอันสั้น เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว แต่สามารถรักษาให้กลับสู่ภาวะปกติได้

ไตวายเรื้อรัง คือ ภาวะที่ไตมีความผิดปกติ ค่าการทำงานของไตต่ำลงเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง หรือมีระยะเวลานานกว่า 3 เดือน

ภาวะแทรกซ้อนโรคไต ป้องกันโรคไต

ใครเสี่ยงบ้าง

กลุ่มเสี่ยงในการเกิดโรคไต อาทิ คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงเป็นโรคไตร่วมด้วย คนไข้ที่มีความดันโลหิตสูงจะสัมพันธ์กับไต เพราะไตเป็นอวัยวะที่เต็มไปด้วยหลอดเลือด เมื่อมีความดันโลหิตสูงจะส่งผลถึงไตโดยตรง ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน หรือ กลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดต่างๆ เช่น หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป เพราะอัตราการทำงานของไตลดลง กลุ่มคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไต ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่นถุงน้ำในไต เป็นต้น กลุ่มคนเป็นเกี่ยวกับโรคข้อ โรค SLE และนอกจากนี้จะเป็นผู้ป่วยที่มีประวัติการใช้ยา การได้รับสารพิษ เมื่อไตทำงานลดลง ไม่สามารถทำงานได้ปกติ เกิดการเสื่อมสภาพลงอย่างต่อเนื่

กินอย่างไร ไตไม่เสื่อม

สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นหัวใจสำคัญในการชะลอไตวายเรื้อรัง  ช่วยควบคุมอาการและดูแลไม่ให้ไตทำงานหนักจนเกินไป โดยอาหารที่ควรระมัดระวังในการรับประทานคือ

1) เนื้อสัตว์ เพราะหากรับประทานมากจนเกินไปจะส่งผลเสีย ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้นและเกิดการคั่งของของเสีย แต่หากรับประทานน้อยไปอาจสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ภูมิคุ้มกันตำลง เสี่ยงในการเสียชีวิตได้

2) ข้าวและแป้ง อาหารกลุ่มนี้มีแหลงโปรตีนในปริมาณที่แตกต่างกัน อาจทำให้ผู้ป่วยไตเสื่อมระยะ 3-5 จำกัดการรับประทานโปรตีนได้ยาก ผู้ป่วยควรได้รับความรู้ในการเลือกกลุ่มแป้งที่ถูกต้องและปลอดภัย เช่น วุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ และสาคู เพื่อให้การรักษาโรคไตเสื่อมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

3) ไขมัน ไขมันที่ดีคือไขมันไม่อิ่มตัวสูไขมันอิ่มตัวสูงพบในมันและหนังสัตว์ น้ำมันจากสัตว์ เป็นต้น

4) ผักและผลไม้ เเหล่งเเร่ธาตุที่มีความสำคัญมาก เเต่เมื่อไตสูญเสียความสามารถในการรักษาสมดุลเกลือเเร่บางตัว การเลือกรับประทานผักผลไม้ที่มีเเร่ธาตุต่ำจึงมีความสำคัญต่อการรักษาอย่างมาก ผลไม้กับผลที่ควรเลือกทานขึ้นอยู่กับ ระดับโพแทสเซียม เเมกนีเซียม เเคลเซียม เเละโซเดียมในเลือดขณะนั้น

5) เกลือ หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้ได้รับโซเดียมเกินความจำเป็น อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

6) น้ำ ผู้ที่ไตขับปัสสาวะได้ลดลงมีความจำเป็นต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่เพื่อป้องกันภาวะบวมน้ำเเละน้ำท่วมปอด ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันจะนับรวมถึงอาหารทุกชนิดที่เป็นของเหลวเเละเครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่า ซุป น้ำผลไม้ น้ำผัก เป็นต้น 

และไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ต้องดูแล โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อยากให้ทุกคนตระหนักถึงโรคไตและป้องกันโรคไตด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารเค็มจัด หวานจัด ดื่มน้ำวันละ 8 – 10 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ ตรวจคัดกรองไตอย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับผู้ป่วยโรคไตควรพบแพทย์ตามนัดหมายและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

(ที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพ)


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ป่วยโรคไต รับมือโควิดอย่างไรดี ลดความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิต

สังเกตด่วน! คุณมีอาการเสี่ยงโรคไตหรือไม่

กินเค็มเยอะ ระวังได้มากกว่าโรคไต

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.