กินแบบชาวบาร์บาเกีย กินให้อายุยืน ไม่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ

กินแบบชาวบาร์บาเกีย กินให้อายุยืน ไม่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ

วิธี กินแบบชาวบาร์บาเกีย ต้องกินอย่างไร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับชาวบาร์บาเกีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของกลุ่มผู้มีอายุยืนที่สุดในโลกกันก่อนดีกว่า

ชาวบาร์บาเกีย

ซาร์ดิเนียเป็นเกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อกล่าวถึงคําว่าเมดิเตอร์เรเนียน เราอาจนึกถึง “อาหารเมดิเตอร์เรเนียน” ที่นิยมเสิร์ฟในภัตตาคาร จนทําให้หลายคนเกิดความสับสนว่าการรับประทานอาหารอิตาเลี่ยน หรืออาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนนั้นจะทําให้อายุยืน มีอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยที่สุดในโลกดั่งชาวบาร์บาเกีย และที่แย่ไปกว่านั้นคือคนจํานวนไม่น้อยต่างพากันเข้าใจผิดว่าอาหารกลุ่มนี้คืออาหารประเภท พิซซ่าขอบชีส ไส้กรอกอิตาเลี่ยน หรือพาสต้าครีมชีส เป็นต้น แต่ถ้าหากเราลองมาดูรูปแบบอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่แท้จริงแล้ว รูปแบบของอาหารต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น เรามาดูกันซิว่าอะไรที่ทําให้คนที่อาศัยอยู่ในแคว้นซาร์ดิเนีย เค้ามีอายุยืนยาวกัน

รูปแบบการกินของชาวบาร์บาเกีย

  • กินอาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก โดยกินผักสดทุกวันนอกจากนี้แล้วยังนิยมผลไม้สด ธัญญาหาร ข้าวไม่ขัดสี ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่จากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
  • ปรุงอาหารด้วยไขมันจากมะกอกหรือนําามันมะกอก และถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอัลมอนด์ มีงานวิจัยจําานวนมากออกมาระบุว่านําามันมะกอกและน้ำมันจากถั่วเปลือกแข็งนั้นมีวิตามินอีสูง และเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • กินสมุนไพรและเครื่องเทศที่ปลูกขึ้นเองเป็นประจํา ซึ่งส่วนใหญ่มักนํามาใช้ในการประกอบอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อย กลมกล่อมยิ่งขึ้น
  • ดื่มไวน์พร้อมอาหารมื้อเย็น กําหนดปริมาณไม่เกิน 2 แก้วไวน์ต่อวันสําหรับผู้ชาย และไม่เกิน 1 แก้วไวน์ต่อวัน สําหรับผู้หญิง โดยจิบเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้รสชาติของไวน์ ซึ่งต่างจากคนทั่วไปที่มักไม่จําากัดปริมาณในการดื่ม จากการศึกษาระบุว่าการดื่มไวน์ในปริมาณที่เหมาะสมจะส่งผลดีต่อร่างกายและลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
  • เลือกรับประทานเนื้อสัตว์เพียงบางชนิด ว่าหากจะกินเนื้อสัตว์ต้องเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่มีขา เช่น ปลา หรือถ้าหากมีขา ก็ต้องเลือกที่จํานวนขาน้อยที่สุด เช่น สัตว์ปีก เนื่องจากชาวบาร์บาเกียมีความเชื่อว่าการกินเนื้อสัตว์จําพวกเนื้อวัว หรือเนื้อหมู จะทําให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายและก็ตรงกับความจริงที่ว่าในเนื้อปลานั้นมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าเนื้อหมู และเนื้อวัวนั่นเอง
  • กินอาหารที่มาจากธรรมชาติ และลดปริมาณอาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น เน้นผักผลไม้ ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยว หรือ อาหารกระป๋อง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเน้นสารอาหารจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทน
  • กินอาหารอย่างช้าๆ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดนอกจากจะได้รสชาติของอาหารที่อร่อยมากยิ่งขึ้นแล้วยังช่วยไม่ให้ระบบย่อยอาหารทํางานหนักอีกด้วย
  • กินอาหารเมื่อร่างกายรู้สึกหิว ไม่ใช่เพราะเกิดความอยากหรือเมื่อมีความรู้สึกเบื่อไม่มีอะไรทํา
  • เน้นปริมาณของกินอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันมากกว่ามื้อเย็น
  • ใช้เวลาในการกินอาหารแต่ละมื้ออย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้การกินแต่ละครั้งเกิดความสุขไม่ต้องเร่งรีบ จนเกิดความเครียด
  • เลือกอาหารที่มีคุณภาพเท่านั้น โดยไม่เน้นปริมาณ

ข้อมูลจาก : ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล (DrPH, RD) อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.