อาหารแพลนต์เบสด์

รู้จัก เทรนด์ใหม่น่าจับตามอง อาหารแพลนต์เบสด์ (Plant-based) มีดีอย่างไร

รู้จัก อาหารแพลนต์เบสด์ (Plant-based) เทรนด์ใหม่มาแรง มีดีอย่างไร

จากเหตุการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และยังคงต่อเนื่องจนมาถึงปี 2021 ส่งผลให้แนวทางการบริโภคของผู้คนเปลี่ยนไป เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องปรับตัว และหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้น วันนี้ชีวจิตจึงจะมาพูดถึงเทรนด์ที่น่าจับตามองอย่าง อาหารแพลนต์เบสด์ (Plant-based) หรืออาหารที่ทำจากพืชค่ะ

การกินอาหารแพลนต์เบสด์ (Plant-based) เป็นการกินที่โฟกัสหลัก ๆ ไปที่พืช ซึ่งไม่ใช่แค่ผลไม้ หรือผักเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงถั่วทุกชนิด เมล็ดพันธ์ุ น้ำมัน ธัญพืช โดยการกินลักษณะนี้ไม่ใช่การกินมังสวิรัติ ที่ไม่กินอาหารจำพวกเนื้อหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเลย แต่เป็น การกินอาหารที่สัดส่วนเป็นพืชมากกว่าอาหารประเภทอื่น

โดยในช่วงนี้ ผู้คนทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่มาจากพืช (Plant-based) เพิ่มขึ้น 2 สาเหตุ โดยสาเหตุแรกคือ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว และสาเหตุที่สอง เพื่อลดการทารุณกรรมสัตว์

ต่อมา จึงมีการผลิตอาหารจากพืชมาทดแทนการกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ให้รสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ อย่างการทำเบอร์กอร์แพลนต์เบสด์ของแบรนด์เบอร์เกอร์คิง (Burger King) ที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้ามังสวิรัติได้อย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากนี้ จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการขาดแคลนเนื้อสัตว์ในบางพื้นที่ ส่งผลให้ราคาของสินค้าประเภทเนื้อสัตว์พุ่งสูงขึ้น การเลือกทำอาหารจากพืชในอุตสาหกรรมอาหารจึงนับว่าเป็นการแก้ปัญหาในรูปแบบหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม คนที่หันมาบริโภคอาหารแพลนต์เบสด์ยังคงหวังที่จะมีสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนประโยชน์ทั้งในแง่การควบคุมน้ำหนัก ลดการอักเสบของร่างกาย และยังลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

จากการบทความของ Harvard Health Publishing ได้กล่าวถึงหลักฐานที่พิสูจน์ว่าการกินอาหารแพลนต์เบสด์ดีต่อสุขภาพ และเคล็ดลับในการเริ่มกินอาหารชนิดนี้ไ้ว้ ดังนี้

จา่กหลาย ๆ การวิจัยทางโภชนาการ ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่าการกินอาหารแพลนต์เบสด์เป็นการกินแบบเมดิเตอเรเนียน และมังสวิรัติ

อาหารมังสวิรัติ ช่วยลดความอ้วน

การกินแบบเมดิเตอเรเนียน (Mediterranean diet)

การกินแบบเมดิเตอเรเนียนมีอาหารแพลนต์เบสด์เป็นรากฐาน และมีปลา เนื้อสัตว์ปีก ไข่ ชีส และโยเกิร์ตอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ส่วนเนื้อสัตว์และของหวานคือมีน้อยครั้งกว่า

จากศึกษาจำนวนมากพบว่า การกินลักษณะนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม โรคเบาหวาน มะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคซึ่มเศร้า เป็นต้น และสำหรับผู้สูงวัย ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะเปราะบางในผู้สูงอายุ อีกด้วย

การกินมังสวิรัติ (Vegetarian diet)

การกินมังสวิรัติก็พบว่า ช่วยซัพพอร์ตสุขภาพ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน และยังช่วยยืดอายุขัยได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับคนกินวีแกนบางคนอาจต้องกินอาหารเสริม โดยเฉพาะวิตามินบี 12 เพื่อที่ให้แน่ใจว่าจะรับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอ

การกินอาหารแพลนต์เบสด์นั้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพและร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารสูง และ สารพฤษเคมี

8 เคล็ดลับเริ่มกินอาหารแพลนต์เบสด์

1.กินผักมากขึ้น และอย่าลืมกินให้หลากหลายสี

2.เปลี่ยนวิธีการคิดเกี่ยวกับเนื้อ กินน้อยลง มองให้เป็นของตกแต่งจาน

3.เลือกกินไขมันดี เช่น นำ้มันมะกอก ถั่ว เนยถั่ว เมล็ดพันธ์ และอโวคาโด

4.ทำอาหารมังสวิรัติออย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์

5.กินธัญพืชเต็มเมล็ดในอาหารเช้า เช่น โอ๊ตมีล ควินัว

6.กินผักสีเขียวให้หลากหลาย

7.ทำมื้ออาหารให้เป็นสลัดเป็นส่วนประกอบ

8.กินผลไม้เป็นของหวาน

ก่อนจากกันไป จากที่กล่าวไปในข้างต้น อุตสาหกรรมอาหารหลายแห่งเริ่มหันมาให้ความสนใจในเทรนด์การกินเพื่อสุขภาพของผู้คนมากขึ้น ในปีที่ผ่านมาจึงมีแบรนด์ดังมากมายพากันเปิดตัวอาหารแพลนต์เบสด์ทั้งอาหารคาวและหวาน เอาใจคนรักสุขภาพ ซึ่งมีแบรนด์อะไรกันบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

1.Starbucks

เมื่อเนื้อสัตว์ทางเลือกกำลังมาแรง แบรนด์ร้านกาแฟชื่อดับระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์ก็ไม่พลาดที่จะเปิดตัว 4 เมนูเครื่องดื่มแพลนต์เบสด์ที่ใช้นมข้าวโอ๊ต เพื่อเป็นทางเลือกทดแทนนมวัว นำมาเป็นส่วนผสมหลักในเมนูกาแฟหรือชาเขียว และยังมีเมนูอาหารที่ได้รับความสนใจคือ Beyond Meat Sandwich แซนด์วิชที่ไส้ทำจากโปรตีนพืช ให้รสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ แต่ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย ส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี

2.IKEA

อิเกียปรับกลยุทธ์ พัฒนามีตบอลตัวดังเป็นสูตรไร้เนื้อสัตว์หรือที่เรียกว่าแพลนต์บอล โดยมีกระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงร้อยละ 4 เท่านั้น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าว่า ภายในปี 2022 จะต้องทำผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชให้ได้ร้อยละ 20 ของทั้งหมดในแบรนด์ ใครที่มีโอกาสได้กินอาหารในศูนย์อาหารอิเกียก็จะเห็นว่าเริ่มมีเมนูแพลนต์เบสด์ออกมาใหม่เรื่อย ๆ

3.Magnum

ในต่างประเทศแบรนด์ไอศกรีมเม็กนั่มได้จับเทรนด์อาหารสุขภาพด้วยการเปิดตัว Magnum Vegan 2 รสชาติ ได้แก่ Magnum Vegan Classic และ Magnum Vegan Almond เป็นไอศกรีมปราศจากนมวัว (Dairy-free) มีส่วนผสมหลักทำจากโกโก้เข้มข้นถึงร้อยละ 70 โดยทางยูนิลีเวอร์ หรือบริษัทผู้ผลิตไอศกรีมดังกล่าวประกาศว่า การปลูกโกโก้ใช้กระบวนการปลูกที่มีความยั่งยืน ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ขณะเดียวกัน ปริมาณไอศกรีมและบรรจุภัณฑ์ก็ออกแบบไว้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องเหลือทิ้ง

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.