กินหวาน เพื่อดับร้อน ยิ่งเพิ่มความชรา บอกเลยอย่าหาทำ

กินหวาน เพื่อดับร้อน รู้หรือไม่ยิ่งเพิ่มความชรา บอกเลยอย่าหาทำ

กินหวาน กินเข้าไป กินน้ำหวานๆ น้ำอัดลมเย็นๆ เพื่อสู้กับสภาพอากาศสุดจะร้อนอบอ้าว ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติหวานและมีความเย็น ช่วยดับกระหายคลายร้อนของแต่ละคน อาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ไอศกรีม ผลไม้ลอยแก้ว น้ำแข็งไส น้ำหวาน และน้ำอัดลม เป็นต้น จนเกิดเป็นความเคยชินว่าอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานจะทําให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า หากไม่ได้รับประทานของหวานก็จะรู้สึกไม่มีแรง อ่อนเพลีย หงุดหงิด เราเรียกลักษณะอาการนี้ว่า “ภาวะติดนํ้าตาล” และเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเกินความต้องการ น้ำตาลเหล่านั้นก็จะแปรรูปเป็นไขมันสะสมไปทั่วร่างกาย  ผลที่ตามมาก็คือการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน อีกทั้งยังเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดอีกด้วย

มาทําความรู้จักกับ Glycation และ AGEs

การรับประทานของหวานในปริมาณมากเป็นประจํานั้นส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก่อให้เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Glycation) อันเป็นสาเหตุของความชราก่อนวัยอันควร เนื่องจากโมเลกุลของน้ำตาลที่เรารับประทานเข้าไปจะไปเกาะติดกับโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของอวัยวะรวมถึงเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย ก่อให้เกิดสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า AGEs (Advanced Glycation End-Products) เมื่อสารตัวนี้ผ่านเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายก็จะส่งผลให้เซลล์บริเวณนั้นตายหรือเสื่อมสมรรถภาพในการทํางานลง จากการวิจัยพบว่า AGEs เป็นตัวทําลายคอลลาเจนรวมไปถึงใยโปรตีนในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและมีจุดด่างดําตามมา นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อเซลล์สมองก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากโมเลกุลของน้ำตาลที่ไปเกาะโปรตีนในหลอดเลือดนั้นส่งผลให้ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง

ข้อมูลจาก : ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล (DrPH, RD) อาจารย์ประจําภาควิชาโภชนวิทยา

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

บทความอื่นที่น่าสนใจ

โรคพิษสุนัขบ้า ร้อนๆ แบบนี้ ฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง

อาหารเป็นพิษ อาการยอดฮิตในช่วงหน้าร้อน

วิธีคลายร้อน ตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.