ป้องกันโรคไต โซเดียมแฝง

เปิดคัมภีร์สุขภาพ “กินฟื้นพลังไต”

เปิดคัมภีร์สุขภาพ “กินฟื้นพลังไต”

ไม่ว่าจะมีสุขภาพแข็งแรงเพียงใด เมื่อพ้นวัยเลย 3 “ไต” จะทำงานลดลงเฉลี่ยปีละ 1% เป็นความเสื่อมตามธรรมชาติพร้อมๆ กับร่างกายสิ้นอายุขัย ยิ่งใครตามใจปาก กินแต่อาหารทำลายไต ก็จะเร่งให่ไตเสื่อมเร็วขึ้นจนไม่สามารถกรองของเสียและขับปัสสาวะได้ตามปกติ สุดท้ายไตจะเสื่อมจนเข้าสู่ภาวะไตวาย ต้องนอนข้างเครื่องฟอกไตและฝืนใจเข้มงวดกับอาหารทุกชนิดเพื่อรักษาชีวิต

วันนี้ชีวจิตเลยอยากจะมาแนะนำวิธีกินให้ไตแก่ช้า โดยป้องกันผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่ให้ป่วย และช่วยผู้ป่วยไม่ให้เกิดภาวะไตวาย พร้อมกระซิบ 7 สัญญาณเตือนโรคไตที่จะช่วยให้รู้เร็ว รู้ไว และรักษาได้ทันท่วงที

กินและออกกำลังถูกต้องป้องกันโรคไต

อยากให้ ไต มีสุขภาพแข็งแรงต้องรู้จักกิน ดื่ม และออกกำลังกายง่ายๆ ดังนี้

เพลาหวาน เบาเค็ม เพื่อป้องกันโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคไตเรื้อรัง สามารถทำได้ง่ายๆ โดยปรับเปลี่ยนความเคยชินเสียใหม่ เริ่มจากหลีกเลี่ยงหรือลดความถี่ในการดื่มเครื่องดื่มรสหวานหรือน้ำอัดลม ลดปริมาณน้ำตาลและเครื่องปรุงรส เช่น ซีอิ๊วขาว น้ำปลา หรือซอสปรุงรสในอาหาร

อาจเริ่มจากลดลงทีละครึ่งช้อนชา ครั้งแรกที่ลดปริมาณน้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสอาจรู้สึกว่ารสชาติไม่กลมกล่อมเท่าเดิม แต่หากทำต่อเนื่องสักระยะ ต่อมรับรสจะปรับตัวใหม่ สุดท้ายหากกลับไปกินอาหารหวานและเค็มเหมือนเดิม จะรู้สึกว่าเครื่องดื่มหรืออาหารเหล่านั้นรสชาติหวานและเค็มเกินไป ไม่อร่อย

ไม่กินเค็ม

นอกจากนี้ ควรกินอาหารสดใหม่จากธรรมชาติหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง ที่เติมเกลือและน้ำตาลปริมาณสูงกว่าปกติ เพื่อประโยชน์ในด้านรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา

ตั้งเป้าดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจส่งผลให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง เพิ่มโอกาสที่สารละลายในปัสสาวะจะตกผลึกกลายเป็นก้อนนิ่ว หากใครรู้ตัวว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอ วิธีหนึ่งที่จะช่วยเตือนความจำให้ดื่มน้ำระหว่างวันเพิ่มขึ้นคือ วางกระติกน้ำไว้บนโต๊ะทำงาน อาจเลือกน้ำเปล่าหรือน้ำอาร์ซี เครื่องดื่มสุขภาพตามแบบชีวจิต แต่ไม่ควรเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานและน้ำตาลสูง เพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพตามมา

นอกจากนี้ ควรเลือกกินอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ หรือกินผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงโม ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ ร่วมมด้วย เพราะปัสสาวะที่คั่งค้างทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและส่งผลให้เกิดโรคไตเรื้อรังตามมา

ออกกำลังกายขับเกลือโซเดียม วิธีหนึ่งที่จะช่วยขจัดความเค็มออกจากร่างกาย โดยที่ไตไม่ต้องทำงานหนักคือการออกกำลังกาย เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายสามารถขับเกลือโซเดียมส่วนเกินผ่านทางผิวหนังพร้อมเหงื่อได้

ฉะนั้นเพื่อถนอมไตไม่ให้ทำงานหนัก ควรออกกำลังกายเป็นประจำและต่อเนื่อง อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน โดยเลือกกิจกรรมที่ชอบ เพื่อให้ได้เคลื่อนไหวร่างกายและเสียเหงื่อ เช่น เดิน วิ่ง โยคะ ปั่นจักรยาน

>>อ่านต่อหน้าถัดไป<<

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.