วิตามินดี ผู้สูงอายุ

เรียนรู้เรื่อง…วิตามินดีกับผู้สูงอายุ

เรียนรู้เรื่อง…วิตามินดีกับผู้สูงอายุ

ขึ้นชื่อว่า “วิตามิน” หากกินในปริมาณที่เหมาะสม ย่อมเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย วิตามินดี ก็เช่นกัน แต่ทราบหรือไม่ ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพในการสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดดจะลดลงต่ำกว่า 1 ใน 3  เมื่อเทียบกับคนอายุ 20 ปี

หากเป็นเช่นนี้ผู้สูงอายุควรกินผลิตภัณฑ์วิตามินดีเสริม หรือไม่ เรามาหาคําตอบเรื่องนี้กันค่ะ

ความสำคัญของวิตามินดี

นอกจากวิตามินดีจะมีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกัน โรคกระดูกบาง และ กระดูกพรุน วิตามินดียังมีคุณสมบัติพิเศษอีกมากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ นั่นคือ วิตามินดีมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่างๆ ในร่างกาย  เช่น ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน

 

นอกจากนี้วิตามินดียังมีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เซลล์มะเร็ง ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนการให้วิตามินดีเสริมเพื่อช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก

วิตามินดีช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน มากขึ้น มีผลช่วยลดความเครียด และ ภาวะซึมเศร้า ได้อีกด้วย ในด้านผิวพรรณ วิตามินดีช่วยในการแบ่งเซลล์ และการพัฒนาเซลล์เพื่อไปทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่างๆ ช่วยชะลอวัยของผิว วิตามินดียังมีผลต่อประสิทธิภาพการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา โดยเฉพาะการเล่นกีฬาที่มีความหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การวิ่งระยะไกล การปั่นจักรยาน และไตรกีฬา

วิตามินดีเสริมจําเป็นสําหรับผู้สูงอายุหรือไม่

วิทยาลัยการสาธารณสุขฮาร์วาร์ดที.เอช.ชาน ยืนยันว่า การที่ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินดีไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังของกระดูกและข้อ ขณะที่วิทยาลัยการแพทย์ในเครือเดียวกันให้ข้อมูลเสริมว่า การขาดวิตามินดี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคซึมเศร้ามากขึ้น

อย่างไรก็ดี ในการกินวิตามินดีเสริม พันเอกหญิงแพทย์ หญิงสุมาภา ชัยอํานวย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคข้อและรูมาติสซั่ม กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แนะนำ โดยอ้างข้อมูลจากสถาบันการแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ในกรณีที่ร่างกายมีปริมาณวิตามินดีไม่เพียงพอ สามารถกิน วิตามินดีเสริมได้วันละ 600–4,000 ยูนิต

 

ผู้สูงอายุจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายขาดวิตามินดี

บทความหนึ่งของวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด ระบุว่า สามารถตรวจระดับวิตามินดีในร่างกายได้ด้วยการเจาะเลือดเพื่อหาค่าดังกล่าว โดยปริมาณ วิตามินดีที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 20–40 นาโนกรัม/มิลลิลิตร

การกินวิตามินดีเสริมมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการส่งผลเสียอย่างไร

นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดและทรวงอก และคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้ให้ข้อมูลไว้ในบล็อกตอบปัญหาสุขภาพของท่านว่า วิตามินที่ได้จากแสงแดด และจากอาหารทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย ต่างจากการรับวิตามินดีในรูปวิตามินเสริม ที่หากได้รับมากเกินไปอจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด ท้องผูก ไปจนถึงเกิดอาการสมองสับสนและหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

 

มีทางเลือกอื่นๆ ในการเพิ่มวิตามินดีหรือไม่

ผู้สูงอายุสามารถเพิ่มวิตามินดีให้แก่ร่างกายได้ 2 ทาง ดังนี้

1.เพิ่มระดับวิตามินดีในร่างกายด้ยการตากแดด โดยความเข้มข้นของแสงที่สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินดีได้สูงสุดคือ ช่ง 10.00-15.00 น. แต่เนื่องจากการตากแดดในช่วงที่แสงมีความเข้มข้นสูงต่อเนื่องเป็นประจำอาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงแนะนำว่า ควรตากแดดในช่วงเวลาดังกล่าวเพียงครั้งละ 15-20 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตากแดดในช่วงเวลาอื่นโดยเพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้น

2.สามารถเสริมวิตามินดีจากการกินน้ำมันตับปลาค้อด ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า และส้ม

จากนี้คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยาย ของเราก็จะไม่ขาดวิตามินดีอีกต่อไป

ข้อมูลประกอบบทความจาก: นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 446

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 สมุนไพรบำรุงกระดูกตา-ยาย

3 อาหารทำเสี่ยง โรคกระดูก ข้อย่ำแย่ หากกินเยอะ

กระดูกพรุน โรคต้องระวังในผู้สูงวัย

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.