ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

พบ 3 คุณค่า และ ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ที่คุณคาดไม่ถึง

พบ 3 คุณค่า และ ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ที่คุณคาดไม่ถึง

ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีถึง ประโยชน์ของน้ำผึ้ง เป็นอย่างดี ซึ่ง น้ำผึ้ง นั้น เป็นผลผลิตจากน้ำหวานเกสรดอกไม้ ที่ผึ้งนำมาเก็บสะสม และผ่านกระบวนการทางธรรมชาติภายในรังผึ้ง จนกลายเป็น น้ำผึ้ง รสหวานจากธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะนำมาปรุง เป็นส่วนผสมของทั้งเมนูคาว เมนูหวาน และเครื่องดื่ม ให้มีรสชาติหอมอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์และสรรพคุณในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย

น้ำผึ้ง นอกจากจะหวานหอมอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึง นั่นก็เพราะ ในน้ำผึ้งอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั่นเอง วันนี้ชีวจิตเก็บประโยชน์ เด่นของน้ําผึ้งในงานวิจัยจากทั่วโลก มาฝากค่ะ

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ที่คุณคาดไม่ถึง

1.กระตุ้นความทรงจําในคนวัยทอง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยไซน์สมาเลเซีย (Universiti Sains Malaysia) ซึ่งปรากฏในรายงานข่าวจาก สํานักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า หญิงวัยทองกลุ่มที่กินน้ําผึ้ง วันละ 20 กรัม หรือประมาณวันละ 3 ช้อนชา ติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน  สามารถทําแบบทดสอบความจําได้ดีขึ้น ถึงร้อยละ 15

คุณค่าจากน้ำผึ้ง

2.ป้องกันภูมิคุ้มกันตก

งานวิจัยจากเมโยคลินิก สถาบันการแพทย์ชั้นนําของสหรัฐอเมริกา ระบุว่ากลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่เข้ารับเคมีบําบัดพร้อมกับกินน้ําผึ้ง วันละ 2 ช้อนชา ช่วยลดอัตราเสี่ยงภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Neutropenia) ซึ่งทําให้ติดเชื้อได้ง่าย

น้ำผึ้งแก้ปัญหาหนังศีรษะ

3.แก้ปัญหาหนังศีรษะ

งานวิจัยโดยดอกเตอร์นูริ อัลไวลิ (Dr.Noori Al-Waili) ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิจัยการแพทย์ยุโรป (European Journal of Medical Research) ทดลองผสมน้ําผึ้ง 1 ส่วนกับน้ําอุ่น 10 ส่วน เข้าด้วยกัน ทาศีรษะทิ้งไว้ ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้น ล้างออกแล้วสระผมตามปกติ ทําอย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง ติดต่อกัน 6 เดือน พบว่า อาการคันหนังศีรษะหลุดลอกเป็นแผ่น รังแค รวมถึงผมร่วงลดลงจนหาย โดยไม่กลับมาเป็นอีก

ประโยชน์เพียบแบบนี้ คนรักสุขภาพ ควรมีน้ําผึ้งติดครัวไว้สักขวดเสียแล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ตามถึงจะมีประโยชน์มากขนาดไหน แต่อย่าลืมว่าน้ำผึ้งทานมากไปก็ก่อให้เกิดโทษได้เหมือนกัน จึงควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด อย่าลืมดูด้วยว่า น้ำผึ้งที่ทานนั้นเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่

รู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนน้ำผึ้งแท้?

การจะทานน้ำผึ้งให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้นั่นเอง แต่เนื่องจากในปัจจุบัน น้ำผึ้งปลอมและน้ำผึ้งแท้ มีลักษณะคล้ายกันมากจนแทบจะแยกไม่ออก ทำให้มักจะได้น้ำผึ้งที่ไม่มีคุณภาพมาเสมอ ดังนั้น วันนี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับการดูน้ำผึ้งแท้กันดีกว่า ซึ่งก็มีหลักการดูง่าย ๆ ดังนี้

สังเกตฉลากของขวด หรือโหลน้ำผึ้ง โดยหากที่ฉลากมีการระบุว่า ได้มีการเพิ่มสสารหรือเติมอะไรลงไปเพิ่มเติม ให้เดาได้เลยว่าน้ำผึ้งปลอมแน่นอน หรือไม่ก็มีปริมาณของน้ำผึ้งแท้ผสมอยู่น้อยมาก ซึ่งก็ทำให้คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งด้อยลงไปเช่นกัน

ต้องไม่มีสารปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารปรุงแต่งสี กลิ่นหรือรสชาติก็ตาม เพราะนั่นเท่ากับได้มีการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของน้ำผึ้ง ทำให้คุณภาพด้อยลง และไม่ใช่น้ำผึ้งสดแท้นั่นเอง

สีของน้ำผึ้งต้องเป็นสีที่มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็คือสีเหลืองอ่อน ๆ ถึงสีน้ำตาลใส นั่นเอง และจะต้องไม่ขุ่นทึบด้วย

น้ำผึ้งแท้

ต้องมีความสะอาด โดยไม่มีเศษหรือไขผึ้งปนอยู่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณภาพของน้ำผึ้งลดต่ำลงและส่งผลเสียต่อผู้ที่ทานได้

ความเข้มข้นของน้ำผึ้งแท้ ต้องมีความเข้มข้น และความหนืดสูง หากพบว่าน้ำผึ้งเหลวจนเกินไป มั่นใจได้เลยว่ามีการผสมน้ำหรืออะไรบางอย่างลงไปในน้ำผึ้งแน่นอน

ทดสอบด้วยการ หยดน้ำผึ้งลงบนนิ้ว โดยสังเกตได้ว่า หากเป็นน้ำผึ้งแท้ น้ำผึ้งจะขดจับตัวกันอยู่ แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะกระจายไปทั่วนิ้วอย่างเห็นได้ชัด

ทดสอบด้วยการ หยดน้ำผึ้งลงในแก้วน้ำชา จากนั้น คนน้ำชาให้เท่ากัน ซึ่งหากเป็นน้ำผึ้งแท้สังเกตได้ว่าน้ำผึ้งจะไม่ละลายในทันที เพราะมีความหนืดสูง จึงต้องใช้เวลาในการละลายนั่นเอง

น้ำผึ้งแท้ จะต้องไม่มีฟอง หรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เพราะปกติน้ำผึ้งจะสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมาก ถึงเสียก็จะไม่มีกลิ่นดังกล่าว

และวิธีสุดท้าย เป็นการทดสอบด้วยไม้ขีดไฟ โดยให้ใช้ไม้ขีดไฟแตะน้ำผึ้งที่ปลายเล็กน้อย จากนั้นจุดไฟ ซึ่งหากเป็นน้ำผึ้งแท้ไฟจะติด และเผาไหม้น้ำผึ้งไปด้วย แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะจุดไฟไม่ติด เนื่องจากความความชื้นสูงนั่นเอง

ได้รู้ประโยชน์ของน้ำผึ้งกันแบบนี้แล้ว ใครที่อยากมีสุขภาพดีแข็งแรง พร้อมผิวพรรณที่สวยใสดูเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ลองหันมาทานน้ำผึ้งให้มากขึ้นกันดูสิคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

น้ำผึ้ง เป็นได้ทั้งอาหารและยา

ขิงดองน้ำผึ้ง สำหรับคนธาตุน้ำ-ธาตุลม

ไขข้อข้องใจ น้ำผึ้งกับผู้ป่วยเบาหวาน กินได้หรือไม่ มากน้อยเท่าไร

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.