เช็กสาเหตุร้าย อาการผิดปกติของลําไส้

คนเราเวลาปวดท้องก็มักจะไม่ได้นึกว่า ลำไส้ผิดปกติ หรือเปล่า คิดแค่ว่าเป็นโรคกระเพาะนั่นนี่ กว่าจะรู้ตัวว่าลำไส้มีปัญหา บางคนก็ทนทุกทรมาน ทานยาที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุดอยู่นานเนิ่นนาน จนสุดท้ายก็ต้องไปจบที่โรงพยาบาลอยู่ดี ซึ่งโรคที่เกิดจาก ความผิดปกติของลําไส้ มีด้วยกันหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือการกินอาหารและพฤติกรรมทําร้ายสุขภาพที่คุณอาจคาดไม่ถึง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.โจช แอกซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบําบัดและโภชนาการคลินิก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายสาเหตุก่อโรคและอาการผิดปกติของลําไส้ทั้ง 5 ประการ ไว้ดังนี้

1.ลําไส้ติดเชื้อรา เกิดจากกินยาคุมกําเนิด อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่ทําให้เกิดความชื้นสะสมในร่างกาย เช่น นมวัว กล้วย ข้าวสาลี

2.ลําไส้แปรปรวน เกิดจากความเครียด และมีปริมาณ น้ำตาลในร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้ต่อมหมวกไตและต่อมไทรอยด์ทํางานผิดปกติ

3.ลําไส้อักเสบ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เนื่องจากใช้ยาปฏิชีวนะและกินอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น น้ำตาล ไขมันทรานส์ เนื้อแดง มาการีน

4.ลําไส้มีลมหรือแก๊ส เกิดจากการกินยาลดกรดในกระเพาะอาหารเป็นเวลานาน ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารผิดปกติและทําลายเเบคทีเรียชนิดดีในลําไส้

5.ลําไส้มีท็อกซิน เกิดจากการกินอาหารที่มีไขมันเลวสูง เเละการสะสมพิษในตับและถุงน้ำดี ซึ่งทําให้เกิดโรคถุงน้ำดีและโรคผิวหนังตามมาได้

4 เคล็ดลับการมีลำไส้ที่แข็งแรง

รู้หรือไม่ ภายในร่างกายของคนเรามีจุลินทรีย์เกือบ 40 ล้านตัว ที่มีผลต่อการมีสุขภาพที่ดี รวมไปถึงการมีลำไส้ที่แข็งแรง แจ็ค กิลเบิร์ต (Jack Gilbert) นักวิทยาศาสตร์ และผู้ก่อตั้ง American Gut Project เปิดเผยว่า การมีจุลินทรีย์หลายชนิดในร่างกายส่งผลต่อสุขภาพหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ สุขภาพหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน ตลอดจนการฟื้นตัวของสภาพร่างกายหลังการออกกำลังกาย

นอกจากนี้เขายังแนะนำวิธีเสริมสร้างไมโครไบโอมทั้งภายในและภายนอกของลำไส้ให้มีความแข็งแรง ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1.กินพืชให้ได้ 20 ชนิดต่อสัปดาห์ ทีมวิจัยของกิลเบิร์ตสอบถามผู้คนมากกว่า 15,000 คนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากินในหนึ่งสัปดาห์ พบว่า ผู้ที่บริโภคอาหารจากพืชมากกว่า 20 ชนิด มีความหลากหลายของจุลินทรีย์ ซึ่งช่วยในเรื่องการทำงานของไมโครไบโอม ทำให้มีแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้น้อยลง

2.ไม่จำเป็นต้องกินอาหารหมักดองเสมอไป เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถกินผักดอง หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมอย่างโยเกิร์ตได้ อาหารหมักดองเหล่านี้ มักมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งน้ำตาลเป็นตัวดูดซับแบคทีเรียที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดการอักเสบภายในลำไส้ได้

3.รักษาสุขอนามัย กิลเบิร์ตไม่แนะนำให้ใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียโดยตรง เพราะผิวของเรามีแบคทีเรียดีที่อาจถูกชะล้างออกด้วยสบู่ชนิดนี้ ควรล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ธรรมดา หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แทน การมีแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แข็งแรง

4.กินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น กล้วย ฝรั่ง กะหล่ำปลี หอมหัวใหญ่ เป็นต้น มีงานวิจัยกล่าวว่า อาหารที่มีโพรไบโอติกส์สามารถช่วยรักษาผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า และโรคลำไส้แปรปรวน เพราะโพรไบโอติกส์เป็นเส้นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหารส่วนบนและกระเพาะอาหาร แต่จะผ่านไปถึงลำไส้ใหญ่ จากนั้นจะถูกย่อยเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดี ทำให้ไมโครไบโอมแข็งแรง

เมื่อเกิดความผิดปกติของระบบลำไส้และทางเดินอาหาร อาจส่งผลให้เกิดโรคหรือความผิดปกติในระบบอื่นๆ ตามมา ฉะนั้นควรหมั่นสังเกตการขับถ่าย และเลือกกินอาหารที่เป็นมิตรต่อลำไส้ เพื่อสุขภาพภายในที่แข็งแรงนะคะ