ผิวผื่นภูมิแพ้ แก้อย่างไรในหน้าหนาว

ผิวผื่นภูมิแพ้ แก้อย่างไรในหน้าหนาว

หน้าหนาวเป็นช่วงเวลาที่หลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในอากาศหนาวรอคอยเป็นอย่างมากในแต่ละปี เพื่อจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น  และการเตรียมตัวรับมือกับการดูแลสุขภาพผิวในช่วงฤดูหนาวนี้ ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้กัน หลายคนไม่ว่าจะเพศไหนหรือรุ่นอายุเท่าไหร่มักจะพบเจอปัญหาผิวแห้ง ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง แพ้ง่าย เป็นผื่นคันและผิวแตกแห้งผาก เป็นภูมิแพ้ผิวหนังช่วงอากาศหนาว วันนี้เรามีเคล็ดลับดูแลสุขภาพ ผิวผื่นภูมิแพ้ จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามมาฝากค่ะ

ผื่นคัน, ผื่นภูมิแพ้หน้าหนาว

ผิวแห้ง ผิวผื่นภูมิแพ้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ

ไม่ว่าจะเป็นทั้งสภาพอากาศ การอาบน้ำอุ่น การล้างหน้าและอาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง  ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองทางผิวหนัง แพ้ง่าย เป็นผื่นคันตามร่างกาย และผิวแห้งแตกในช่วงอากาศหนาว นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อยู่แล้ว จำทำให้อาการแพ้กำเริบได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เนื่องจากภาวะภูมิแพ้นั้นจะส่งผลให้ร่างกายเกิดการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมบูรณ์ ร่วมกับการที่ร่างกายขาดวิตามินที่สำคัญ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี และวิตามินซี จึงทำให้มีปัญหาผิวในฤดูหนาว

โดยแพทย์หญิงสาริษฐา สมทรัพย์ กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ให้ข้อมูลไว้ว่า ในต่างประเทศจะนิยมเจาะเลือดเพื่อวิเคราะห์ว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รักษาให้ตรงจุด  คุณหมอจึงแนะนำวิตามินธรรมชาติที่จะช่วยปกป้องจากผิวเสียในหน้าหนาว ไว้ดังนี้

 

วิตามินเอ   จัดอยู่ในกลุ่มที่ช่วยละลายไขมันและต้องแร่ธาตุช่วยในการดูดซึม ช่วยให้เยื่อบุโครงสร้างผิวแข็งแรงไม่แตกและขาด ทั้งยังช่วยสร้างภูมิต้านทานและลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย หากร่างกายขาดวิตามินเอ จะทำให้เกิดการระคายเคืองตา น้ำมูกไหล เกิดอาการคันบริเวณผิว

แหล่งวิตามินเอจะพบใน ผักและผลไม้สีเหลืองสีเขียว เช่น ตำลึง ผักเคล ฟักทอง แครอต แคนตาลูปและถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น

ผืวผื่นภูมิแพ้ หน้าหนาว วิตามินซี, ส้ม, บำรุงผิวพรรณ

วิตามินซี เป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำและร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ระบบหลอดเลือด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทั้งยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาติน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้สมบูรณ์ได้

แหล่งวิตามินซีจะพบใน ผักและผลไม้สีส้ม สีแดง  เช่น ส้ม มะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง มะละกอ มะม่วง ลูกพรุน เป็นต้น

 

วิตามินดี หรือที่เรารู้จักกันว่า วิตามินแสงแดด เพราะร่างกายเราสามารถสร้างวิตามินดีได้จากแสงแดด ช่วยเม็ดเลือดขาวในการสร้างภูมิต้านทาน ช่วยให้เซลล์ทำงานสมดุล และช่วยดูดซุมวิตามินเอให้ร่างกายได้ดีอีกด้วย

แหล่งวิตามินดีที่สามารถหาได้จากอาหาร เช่น นม เห็ด ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และไข่ เป็นต้น

หรือหากใครที่สะดวกกินวิตามินเสริมเป็นรูปแบบเม็ดหรือแคปซูลก็ได้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม  เช่น วิตามินเอ ประมาณวันละ 800-1,000 ไมโครกรัม วิตามินดี ประมาณวันละ 100-200 และวิตามินซี ประมาณ 100- 1,000 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ

 

8 เคล็ดลับดูแลผิวหน้าหนาว 

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  2. บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ระคายผิว ทั้งนี้สามารถเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เข้มข้นขึ้นกว่าในช่วงหน้าร้อน โดยดูส่วนผสมที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก (humectants) เช่น กลีเซอรีน (glycerine), ซอบิทอล (sorbitol), เซรามายด์ (ceramide) ในกรณีที่ผิวมีความแห้งมากอาจใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้อขี้ผึ้งซึ่งจะสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีกว่าแบบครีมหรือโลชั่น หรือใช้น้ำมัน เช่น น้ำมันมะพร้าว ทาหลังอาบน้ำ เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ภายหลังอาบน้ำทันทีเพื่อเพิ่มการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น
  3. บำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน โดยการเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงผิว เช่น อาหารที่มีวิตามินซี
  4. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งเสีย ผิวแห้งกร้านได้
  5. ควรเลือกใช้ผ้าเนื้อโปร่งเช่นผ้าฝ้าย ไม่ควรใช้ผ้าขนสัตว์ หรือเนื้อหยาบ
  6. พยายามหลีกเลี่ยงอากาศหนาวจัดเกินไป โดยเฉพาะนอนในห้องปรับอากาศ เพราะผิวที่แห้งอยู่แล้วจะยิ่งแห้งมากขึ้นอีก
  7. ในบางครั้ง อาการแพ้ของผิวอาจเป็นหนักมากในช่วงหน้าหนาว จนสามารถเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังตามมาได้ เช่นมีหนอง มีคราบน้ำเหลือง โดยเฉพาะเกิดตามหลังการเกาอย่างมาก แพทย์อาจจะใช้การดูแลแผลโดยใช้การประคบเปียก และใช้ผ้าก๊อส ชุบน้ำเกลือสำหรับล้างแผล ซับหมาดๆ ประคบบนผื่น เป็นเวลา 10 – 15 นาที วันละ 3-4 ครั้ง อาจจะใช้ยาทา หรือ ยากินปฏิชีวนะร่วมด้วย
  8. ถ้าผิวเราแห้ง เป็นผื่นคันหนักๆ ซึ่งมักจะเป็น ที่หน้าแข้ง สะโพก หน้าท้อง เกิดจากผิวแห้ง หรือผื่นภูมิแพ้เดิมเห่อขึ้น จำเป็นต้องใช้ยาทาหรือยารับประทาน แนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจอย่างละเอียดจะดีที่สุด

(ชีวจิตแนะนำ อาหารสำหรับคนเป็นภูมิแพ้)

 

ข้อมูลเพิ่มเติม :
– นิตยสารชีวจิต 508
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

————————————————————————————————————————-

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โรคผิวหนัง 7 โรคที่ควรระวัง ช่วงผลัดเปลี่ยนฤดู (หนาวสลับร้อน)
วิธีเช็ค โรคผื่นผิวหนังอักเสบ เสี่ยงมะเร็ง
ทางแก้ของคนเป็น ภูมิแพ้

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.