ติดกล้องวงจรปิด ไอเท็มช่วยชีวิตคุณปู่คุณย่า

เทคโนโลยี เพื่อการช่วยเหลือผู้สูงอายุ เป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ รวมไปถึงสมากชิกในครอบครัวที่ต้องการดูแลพวกท่าน แม้ต้องอยู่ห่างไกลกันก็ตาม

การใช้เทคโนโลยีประเภทนี้เหมาะกับคนไทยไม่น้อย เพราะในแต่ละปีจะมีผู้สูงอายุที่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.5 ซึ่งถ้าหากอ้างอิงข้อมูลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจะพบว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่ามา หรือตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 – 2562 มีจำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับบาดเจ็บด้วยสาเหตุนี้มากถึง 141,895 ราย และคาดว่าภายในปีพ.ศ. 2573 จะมีจำนวนผู้สูงอายุบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้มเพิ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 100 เลยทีเดียว

แม้เทคโนโลยีช่วยเหลืออาจไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้สูงอายุจะลดลงได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยเทคโนโลยีประเภทนี้ สามารถส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ให้ผู้รับสัญญาณเข้ามาดูแลได้ทันท่วงที จึงอยากชวนคุณปู่คุณย่ามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีช่วยเหลือ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ส่งตรงมาเว็บไซต์ด้านเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ของสหราชอาณาจักรอย่างเว็บไซต์ Which?

ทำความรู้จักเทคโนโลยีช่วยเหลือ

หากคุณเป็นคนดูแลผู้ที่มีปัญหาเรื่องความจำเสื่อมเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคพาร์คินสัน หรือคุณปู่คุณย่าที่ร่างกายไม่แข็งแรง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีช่วยเหลือมากมายเพื่อช่วยให้คุณหรือคนที่คุณรักปลอดภัยและรู้สึกเป็นอิสระในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีช่วยเหลือแต่ละรูปแบบกันก่อนเลยนะคะ

1.ระบบ Telecare เทคโนโลยีที่มีเซ็นเซอร์วางไว้รอบ ๆ บ้านเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยจากระยะไกล แล้วทำการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกในครอบครัวที่อยู่นอกบ้าน หรือในต่างประเทศ ระบบนี้จะสามารถส่งสัญญาณไปที่ศูนย์ตรวจสอบก่อนขอความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาล

2.สัญญาณเตือนภัยส่วนบุคคล เมื่อคุณปู่คุณย่าประสบอุบัติเหตุ ตกจากที่สูง สามารถกดเบอร์โทรฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือบางบ้านอาจติดตั้งปุ่มไว้บริเวณพื้นที่เสี่ยง ผู้สูงอายุสามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือได้ทันที

3.ระบบติดตาม GPS ในต่างประเทศอุปกรณ์ชนิดนี้จะสวมใส่ติดตัวผู้สูงอายุ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการพลัดตกหกล้มพร้อมปุ่มแจ้งเตือน ผู้สวมใส่สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ทุกที่แม้กระทั่งเดินทางออกนอกเขต

4.เครื่องช่วยจำ มีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของการใช้งาน เช่น บางคนต้องการเตือนว่าในแต่ละวันต้องใช้ยาอะไรบ้าง ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบแอพพลิเคชั่น มีการเตือนในรูปแบบข้อความและเสียงแจ้งเตือน

5.ระบบ Telehealth เป็นการนำเทคโนโลยีการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ มาสนับสนุนการให้บริการทางสุขภาพที่หลากหลาย เพื่อให้มีการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพระยะไกลสำหรับผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลหรือเดินทางมาพบคุณหมอลำบาก

6.อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยภายในบ้าน เช่น สัญญาณกันขโมย กล้วงวงจรปิด ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์ประเภทนี้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แล้วส่งสัญญาณภาพให้กับคนในครอบครัวที่อยู่นอกบ้านได้เห็นความเคลื่อนไหวภายในบ้านของตน

CCTV ช่วยชีวิตผู้สูงวัย

กล้องวงจรปิด หนึ่งในไอเท็มที่ได้รับความนิยมในบ้านที่มีผู้สูงอายุ เพราะเมื่อลูกหลานออกไปข้างนอก ผู้สูงอายุจำเป็นต้องอยู่บ้านคนเดียว เทคโนโลยีชนิดนี้จะสร้างความสบายใจให้พวกเขา ด้วยการถ่ายทอดสัญญาณภาพให้เห็นการเคลื่อนไหวภายในบ้าน หากใครที่อยากเห็นภาพคุณปู่คุณย่าแบบชัด ๆ เรียลไทม์ ก็จำเป็นต้องเลือกกล้องวงจรที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

-กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย เหมาะกับบ้านที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง หรือบ้านที่ต้องการติดตั้งเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพราะมีราคาที่จับต้องได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

-สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ บางรุ่นมีการทำงานร่วมกับสัญญาณกันขโมย หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น กล้องวงจรปิดก็จะแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของบ้านทันที

-ความละเอียดภาพ ควรเลือกกล้องแบบ IP Camera เนื่องจากมีความละเอียดค่อนข้างมาก สามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืน สำหรับการติดตั้งภายในบ้าน ควรมีระยะที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนประมาณ 10 – 15 เมตร ส่วนกล้องวงจรปิดที่ใช้นอกบ้านควรติดตั้งในระยะ 20 เมตร

-คุณสมบัติการซูมภาพ ในกรณีที่ต้องการความชัดเจนหรือนำไปใช้เป็นหลักฐานต่าง ๆ กล้องวงจรปิดที่มีความละเอียดสูงมากก็จะยิ่งซูมภาพได้ชัดมากขึ้นเช่นกัน

-ดูผ่านออนไลน์ ปัจจุบันสมาร์ทโฟนทุกระบบมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิด เพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi หรือ 4G 5G ต่าง ๆ ก็สามารถดูภาพได้ตามความต้องการ อีกทั้งบางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นไมโครโฟน ซึ่งสามารถส่งเสียงสื่อสารไปยังกล้องวงจรได้อีกด้วย

-หน่วยความจำ ยิ่งกล้องวงจรปิดที่มีความละเอียดสูง ควรมีพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์มากขึ้นตามไปด้วย หรืออย่างน้อย 1,000 – 2,000 กิกะไบต์ (GB) และควรเลือกเป็นกล้องวงจรปิดที่ทนทานต่อความร้อนได้สูงและรองรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อติดกล้องวงจรปิด

ขั้นตอนของการติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบครอบ โดยเฉพาะผู้ที่ติดตั้งด้วยตัวเอง ไม่มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือ อาจพลาดกับมุมภาพที่มองเห็นได้ชัดแจ๋ว แต่กลับติดตั้งในบริเวณที่ไม่ค่อยมีการใช้งาน กล้องวงจรที่ติดตั้งก็ไร้ประโยชน์ได้ในทันที

-ตรวจสอบพื้นที่สำหรับติดตั้ง กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเพื่อคอยดูแลผู้สูงอายุจากระยะไกล ควรเลือกติดตั้งบริเวณที่ผู้สูงอายุมักจะทำกิจกรรม และบริเวณที่เป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้

-จำนวนกล้องวงจรปิด ไม่จำเป็นต้องติดตั้งทุกส่วนภายในบ้านให้เปลืองงบประมาณ เราต้องคำนึงถึงตำแหน่งการติดตั้งที่สามารถมองเห็นได้กว้าง หรือจุดที่คนเดินผ่านแล้วเห็นได้อย่างชัดเจน

-การติดตั้ง ควรตรวจเช็กอุปกรณ์ภายในกล่องก่อนการติดตั้ง พร้อมทั้งอ่านคู่มือการติดตั้งและการใช้งานอย่างละเอียด เมื่อทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยควรทำการตั้งค่าการใช้งานและทดลองดูความเคลื่อนไหวจากระยะไกล เพื่อให้ได้มุมภาพที่ดีที่สุด

-การบำรุงรักษา เมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจมีการสั่นไหวจากสิ่งรอบข้าง ทำให้กล้องเกิดการขยับ ภาพเริ่มเบลอ ต้องหมั่นตรวจเช็กเลนส์กล้อง ถอดเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

แม้ตอนนี้คุณปู่คุณย่าอาจจะยังไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยีช่วยเหลือมากนัก แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาให้ใช้งานง่ายและแพร่หลายมากขึ้น คุณปู่คุณย่าก็จะต้องค่อย ๆ ปรับตัวกันได้อย่างแน่นอนค่ะ

ที่มา: นิตยสารชีวจิต ฉบับ 525

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ