อาการเจ็บหน้าอก สัญญาณเตือนอันตราย ที่ต้องใส่ใจ
มี อาการเจ็บหน้าอก เเน่นหน้าอก หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม ทำไงดี อีกหนึ่งสัญญาณเตือนของร่างกายที่หลายคนสับสน เเละมึนงง ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ อาการรุนเเรง เป็นโรคหัวใจ หรือเปล่า ดังนั้นก่อนจะตื่นตูมไป เราลองมาเช็คอาการกันให้แน่ชัดดีกว่าค่ะ เพราะจะได้ไม่กังวล เตรียมพร้อม ก่อนไปหาคุณหมอ กับ 6 อาการเจ็บหน้าอกที่เป็นสัญญาณเตือนอันตรายที่ต้องระมัดระวัง ดังนี้
เจ็บหน้าอกหลังทานอาหาร
เจ็บหน้าอกหลังทานอาหาร ควบคู่ไปกับอาการรู้สึกแน่นท้อง ผะอืดผะอม หรือบางทีก็รู้สึกแสบร้อนจากกลางอกขึ้นมาที่ลำคอ และมีอาการไอแห้งๆ นั้นเป็นอาการของ กรดไหลย้อน โรคยอดฮิตของคนในยุคนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคนที่ทานอาหารก่อนนอนไม่เท่าไหร่ แก้อาการเจ็บหน้าอกแบบชั่วคราวได้ด้วยการกินยาลดกรดไหนย้อน
การป้องกันกรดไหลย้อน
- ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร โดยเข้านอนหลังทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเค็ม เปรี้ยว หวาน และโดยเฉพาะรสเผ็ด
เจ็บหน้าอกหลังออกกำลังกาย หรือได้รับแรงกระแทก
หากมีอาการเจ็บหน้าอกหลังออกกำลังกาย หรือได้รับแรงกระแทกที่ไม่แรงมากนัก อาจเกิดจากการที่ กล้ามเนื้ออกอักเสบ หรือกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง โดยหากเกิดขึ้นหลังออกกำลังกาย เมื่อได้พักอาการก็จะดีขึ้น หรืออาจทายาคลายกล้ามเนื้อช่วย แต่หากเกิดหลังได้รับแรงกระแทก ควรพบแพทย์เพื่อตรวจดูอย่างละเอียด ว่าได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน
การป้องกันกล้ามเนื้ออกอักเสบ
- จากการออกกำลังกาย ควรวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง และจิบน้ำตลอดการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
- จากอุบัติเหตุ ควรระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการกระแทก และหากมีกระแทกควรพบแพทย์ทันที
เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นรัว
หากอยู่ๆ ก็รู้สีกเจ็บหน้าอก หัวใจเต็นรัว หัวใจเต็นเร็วขึ้น เหงื่อออก เวียนหัว รู้สึกเหมือนจะต้องตาย หรือเจ็บหน้าอกในสถานการณ์ตึงเครียด หรือเจ็บหน้าอกในยามที่ตกใจกลัว อาจเป็นไปได้ว่า กำลังเป็นโรค หวาดระแวง หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ แพนิค หากมีอาการดังกล่าวในยามฉุกเฉิน ขอให้ตั้งสติ ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ หรืออาจใช้การหายในในถุงพลาสติก
การดูแล ป้องกัน โรคแพนิค
หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษา และแจ้งให้ผู้ใกล้ชิดทราบ เพื่อร่วมกันรักษา
เจ็บหน้าอก ไอเป็นเมือก
หากมี อาการเจ็บหน้าอก มาพร้อมกับอาการไอเป็นเมือกสีเหลือง หรือสีเขียว เจ็บมากขึ้นโดยเฉพาะเวลาหายใจ รวมถึงมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ ให้รีบกังวลไว้ก่อนเลยว่ามีอาการติดเชื้อที่ปอด หรือเป็นปอดบวมเข้าให้แล้ว ซึ่งหากมีอาการควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเลยค่ะ เพราะโรคนี้รุนแรงกว่าที่คิด หากปล่อยไว้อาจเสียชีวิตได้เลยนะคะ
การป้องกันปอดบวม
- เมื่อเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจ รีบรักษาไม่ปล่อยไว้ให้เรื้อรัง
- ไม่อยู่ในที่อับชื้น ควรอยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง
เจ็บหน้าอก มีผื่น แผลผุพอง
หากมีอาการเจ็บหน้าอกแบบเสียวแปล๊บ ร่วมกับมีแผลผุพองขึ้นตามผิวหนัง โดยเฉพาะในบริเวณเอว แขน ชายโครง ใบหน้า ให้สันนิษฐานว่าโดนไวรัส จนเกิดเป็นโรคงูสวัดเข้าแล้ว ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุก อีใส ดังนั้นแล้วจึงทำให้เกิดรอยแผลคล้ายๆ กัน อีกหนึ่งความแปลกที่น่ากลัวของงูสวัดก็คือ หากใครเป็นแล้ว มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำได้อีกบ่อยๆ และเป็นโรคที่อันตรายมากๆ โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ
การป้องกันงูสวัด
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
เจ็บหน้าอกแบบโรคหัวใจ
เจ็บหน้าอกแบบโรคหัวใจ เป็นอาการเจ็บหน้าอกที่จะรู้สึกจุก แน่น คล้ายมีอะไรมากดทับหน้าอก หายใจหอบเหนื่อยทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก และมีอาการร้าวไปที่แขนด้านซ้าย หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และวางแผนการรักษาในลำดับต่อไป
การป้องกันโรคหัวใจ
การป้องกันโรคหัวใจเป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่แล้ว แต่ทำได้ยาก นั้นคือเรื่องของการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการทานอาหาร
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงไขมัน
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่สูบบูรี่ ดื่มแอลกฮอล์
- อย่าเครียด
“อาการเจ็บหน้าอกอาจจะไม่ใช่โรคหัวใจเสมอไป ดังนั้นควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเอง เมื่อเกิดอาการผิดปกติควรรีบไปพบเเพทย์”