ท้องเสีย ทำอย่างไร ?
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารสุข กล่าวว่า ท้องเสีย เกิดจากการกิน อาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด อาหารรสจัด ยาและโรคบางชนิด เป็นปัจจัยให้ผู้รับประทาน มีอาการปวดท้องท้องเสียได้ โดยเฉพาะในขณะนี้ซึ่งเป็นหน้าร้อน
โดยผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกเลือกตั้งแต่ 1 ครั้งขึ้นไป ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาการเหล่านี้ หากมีอาการปวดท้องท้องเสียไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะเรียกว่า ท้องเสียเฉียบพลัน แต่หากนานเกิด 2 สัปดาห์จะเรียกว่า ท้องเสียเรื้อรัง
สำหรับวิธีการแก้ท้องเสียเร่งด่วน เมื่อปวดท้องท้องเสียในช่วง 24 – 72 ชั่วโมงแรก ผู้ป่วยควรหยุดรับประทานอาหาร 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลำไส้หยุดการทำงาน ควรดื่มเกลือแร่ สำหรับคนปวดท้องท้องเสีย หรือโอ-อาร์-เอส (ORS) ผสมกับน้ำต้มสุก
หากไม่สามารถหาซื้อได้ สามารถเตรียมเองเกลือแร่ สำหรับหยุดอาการปวดท้องท้องเสียเองได้ โดยผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือแกงครึ่งช้อนชา ในน้ำที่ต้มสุก 750 ซีซี หรือ 1 ขวดน้ำปลา ละลายให้เข้ากัน เพื่อทดแทนน้ำกับเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป
คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป
แต่ ! ไม่ควรรับประทานยาแก้ท้องเสียเร่งด่วน ที่ทำให้หยุดถ่ายทันที เพราะจะก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องอืด ท้องผูก และไม่สามารถกำจัดเชื้อโรค ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ให้หมดไปจากร่างกายได้
นายแพทย์โสภณ ยังย้ำไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิด เรื่องของ “เครื่องดื่มเกลือแร่” ที่ผู้ป่วยดื่มได้ต้องเป็นชนิดสำหรับแก้ท้องเสียเร่งด่วน หรือที่เรียกว่า โอ-อาร์-เอส เท่านั้น
ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ สำหรับผู้เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย หรือโอ-อาร์-ที (ORT) มาดื่ม เพราะน้ำ และน้ำตาลในเครื่องดื่มดังกล่าว จะส่งผลให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดอาการท้องเสีย และถ่ายเหลวมากขึ้น
ดังนั้น เมื่อมีอาการปวดท้องท้องเสีย การแก้ท้องเสียเร่งด่วนนั้น ต้องทำตามคำแนะนำข้างต้น หรือตามแพทย์สั่งเท่านั้น
