ตัวอย่างที่ห้า
คุณผู้หญิงบางคนชอบเปลี่ยนเครื่องสำอางใหม่ๆ บ่อยๆ เครื่องสำอางใหม่เหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้เป็นแผลในปาก ถ้าสังเกตเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกัน ต้องหยุดใช้เครื่องสำอางเหล่านั้น
ตัวอย่างที่หก
หลายท่านอาจจะไม่เคยสังเกตเรื่องวิตามินและแร่ธาตุ บางคนเลือดจาง บางคนกินอาหารไม่ถูกส่วน ขาดวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 และโฟลิกแอซิด ก็ทำให้เป็นแผลในปากได้ง่าย ถ้าตรวจเลือดดูแล้วปรากฏว่าเลือดจาง ให้เพิ่มวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 และโฟลิกแอซิดอย่างละเม็ด และควรจะเติมด้วยซิงค์วันละ 1 เม็ดด้วย เป็นแผลในปากแบบนี้ค่อนข้างจะร้ายแรง คือเป็นแผลทั้งในปากและที่เหงือก แผลจะแดงและมีเลือดออกได้ง่ายๆ แถมยังมีไข้เป็นประจำอีก และลมหายใจออกจะมีกลิ่นแรง
ถ้าในสภาพอย่างนี้และได้เคยไปตรวจเลือดมาแล้ว ปรากฏว่าเม็ดเลือดขาวบางตัวสูงผิดปกติ และการทำงานของไขกระดูกรวมทั้งระบบต่อมน้ำเหลืองมีลักษณะผิดปกติ ต้องตรวจกันอย่างละเอียดแล้วครับ เพราะ อาจจะเกี่ยวกับมะเร็งในเม็ดเลือดได้ ต้องเช็กกันให้ละเอียดแหละครับ
ตัวอย่างที่เจ็ด
และคงจะเป็นตัวอย่างสุดท้ายของบทความนี้ ก็คือ เรื่องของคุณพี่อายุ 55 ปี ที่กล่าวถึงเมื่อตอนต้นแหละครับ คุณพี่อ้าปากให้ผมดู ผมเห็นก้อนเนื้อแดงๆ และมีแผลที่ผิวร่องปากระหว่างลิ้นกับโคนเหงือก บริเวณนั้นเราเรียกภาษาแพทย์ว่า Lingual Frenulum เมื่อลองเอาไม้กดลิ้นแตะเบาๆ บริเวณก้อนเนื้อ ปรากฏว่าตรงกลางเป็นก้อนแข็งภายใน ถามอาการอื่นๆ เกี่ยวกับร่างกายทั้งตัว ปรากฏว่า สองเดือนที่ผ่านมาน้ำหนักตัวของคุณพี่ลดลงไปเกือบ 5 กิโลกรัม
ผมรู้สึกว่าน่าจะต้องให้ตรวจกันละเอียดแล้ว ปรึกษากับเพื่อนร่วมทีม มีความเห็นร่วมกันว่าน่าจะส่งไปให้แพทย์ทาง ENT (Ear, Nose & Throat) ตรวจดู แพทย์ท่านตรวจดูแล้วเห็นว่าควรจะตรวจให้ละเอียดกว่านี้ท่านจึงขออนุญาตตัดชิ้นเนื้อเล็กๆ ส่งไปให้ห้องแล็บตรวจและมาฟังผลอีก 2 - 3 วันต่อมา ผลของชิ้นเนื้อปรากฏว่า เป็น มะเร็ง ชนิด Squamous cell carcinoma
เป็นเรื่องใหญ่สิครับ ทั้งมะเร็งในเม็ดเลือดที่กล่าวถึงในตัวอย่างที่หกและ Squamous cell carcinoma ในตัวอย่างสุดท้ายนี้เป็นเรื่องใหญ่และสลับซับซ้อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอามาอธิบาย และในขณะเดียวกันจะมาสอนกันเป็นตัวหนังสือไปรักษาด้วยตนเองนั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน
