5 วิธีสอนลูกปรับตัว เรียนแบบ 'โฮมสคูล' ช่วงล็อกดาวน์

5 วิธีสอนลูกปรับตัว เรียนแบบ ‘โฮมสคูล’ ช่วงล็อกดาวน์

สอนลูกปรับตัว เรียนแบบ ‘โฮมสคูล’ ช่วงล็อกดาวน์

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับเหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องดูแลลูกๆ ในขณะที่โรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็กทั่วโลกต้องหยุดชั่วคราว “เจนเฮลตี้ไลฟ์”(GenhealthyLife)   มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นห้องเรียนและสร้างความมั่นใจให้กับลูกๆของคุณว่าการเรียนของพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเหตุการณ์นี้

นั้นคือการสอนหนังสือให้กับลูกๆในขณะที่มีการปิดโรงเรียนเนื่องจากการล็อกดาวน์ในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะเป็นการดูแลลูกๆทั้งในเรื่องการเรียนและสุขภาวะทางอารมณ์อาจทำให้คุณรู้สึกเครียดบ้าง แต่การทำกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ในครอบครัวเพื่อช่วยเสริมพัฒนาสมองของลูกๆนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

1.เริ่มจาก “ค้นหากิจกรรมสร้างสรรค์ของโรงเรียนลูก” ลองตรวจสอบสิ่งที่โรงเรียนของลูกจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อช่วยในการเรียนแบบโฮมสคูล (Homeschool) ซึ่งโรงเรียนอาจออกแบบหลักสูตรที่ง่ายสำหรับผู้ปกครองหรือมีการเรียนการสอนผ่านทาง กูเกิ้ลคลาสรูม (Google Classroom) หรือการใช้โปรแกรมประชุมทางไกลด้วยโปรแกรมซูม (Zoom) ดังนั้นควรส่งเสริมสิ่งที่ทางโรงเรียนสนับสนุนด้วยการจัดลำดับการสอนกับวิชาหลักที่สำคัญ เช่น การอ่านเขียนและการคำนวณ

2. ส่วนข้อถัดไปคือ “สร้างประสบการณ์ใหม่ในห้องเรียน” หากต้องการให้ลูกๆ ได้มีส่วนร่วมกับการเรียนภายในบ้าน ลองหาอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ เช่น โปสเตอร์ตัวอักษรตัวเลขสำหรับเด็กเล็ก หรือส่งเสริมให้เด็กโตเขียนสิ่งใหม่ๆ ที่อยากจะแก้ไขแล้วติดมันไว้ในบ้าน มีการทำตารางเวลาเรียนที่พอเหมาะ เพื่อให้เกิดความหลากหลาย เพราะคงไม่มีใครอยากเรียนวิชาคณิตศาสตร์ติดต่อกัน 4 ชั่วโมง หรือผู้ปกครองสามารถตั้งกฎพื้นฐานง่ายๆ เช่น ห้ามใช้โทรศัพท์ในระหว่างเรียน เพื่อช่วยลดสิ่งเร้ารบกวนขณะที่ลูกเรียน

โฮมสกูล ช่วงล็อกดาวน์

3. นอกจากนี้ “ข้อมูลออนไลน์นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์” นำโซเชียลมีเดียมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการค้นหาการศึกษาแบบออนไลน์ที่เหมาะสมตามช่วงวัยของลูก ไม่ว่าจะเป็น สตรีมหนังสือนิทานที่มีภาพเคลื่อนไหว หรือการให้เรียนออนไลน์แบบสดๆ ที่ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายตามเว็บไซต์ต่างๆ

4. รวมถึงอย่าลืม “ให้ความสำคัญกับเวลาพักของลูก” อย่ามองข้ามเวลาในการพักของเด็กๆ เพราะมีความสำคัญมากพอๆ กับเวลาที่พวกเขาใช้ไปกับการเรียน ควรใช้เวลาพักไปกับการสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ และสนุกไปกับกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือนำการเรียนที่ผ่อนคลายควบคู่กับความบันเทิงได้ เช่น ให้เด็กๆ ลองฟังหนังสือเสียงหรือพอดแคสต์ (Podcasts) ในหัวข้อหรือเรื่องราวที่ลูกๆ ของคุณกำลังเรียนรู้อยู่ เป็นต้น

5. สุดท้ายคือต้อง “ติดต่อสื่อสารกัน” ควรมีการติดต่อกับผู้ปกครองคนอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือส่งเสริมให้ลูกใช้กูเกิ้ล แฮงค์เอาท์ (Google Hangouts) เพื่อพูดคุยเรื่องการบ้านกับเพื่อนนักเรียนเช่นกัน รวมไปถึงสอบถามลูกเสมอว่าโฮมสคูล (Homeschool) ในแบบที่พวกเขาต้องการเป็นอย่างไรและรับฟังความคิดเห็นควบคู่กันไป เพื่อสิ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การส่งเสริมสนับสนุนและยินดีไปกับความก้าวหน้าอีกขั้นของลูกรัก

          สำหรับใครที่สนใจในเรื่องสุขภาพ หรืออยากจะอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพ และตัวช่วยในการเลือกแบบประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ สามารถติดตามเคล็ดลับการดูแลสุขภาพดีๆ จากเจนเนอราลี่ได้ใน “เจนเฮลตี้ไลฟ์” (GenhealthyLife) 

 

อ่านเพิ่มเติม

ลูกสำรอง(พุงทลาย) VS บุก สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

“โยคะ” หนึ่งในการออกกำลังกายที่ค่อนข้างปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ

10 วิธีดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ปกติ เมื่อต้องอยู่ติดบ้านเป็นเวลานานๆ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.