อย่าเร่งให้ตัวเองสมองเสื่อมเร็วขึ้น
นอกจากจะเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตใน 5 ประเด็นที่ผมกล่าวไปข้างต้นแล้ว ทุกท่านอย่าเผลอเร่งให้ตัวเองสมองเสื่อมเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น
- อยู่คนเดียวดีๆ ไม่ว่าดี กลับเคี่ยวเข็ญให้ลูกหลานมาอยู่เป็นเพื่อน มาพูดมาคุยด้วย โดยเฉพาะตอนกลางคืน เพราะกลัว เพราะเหงา โธ่ ปูนนี้แล้วยังไม่เลิกกลัวอีกเหรอ ปูนนี้แล้วยังจะมีอะไรเหลือให้กลัวอีก
- จะขับรถเองก็ขับได้ แต่ไม่ยอมขับ ต้องให้คนอื่นมารับมาส่ง หรือจ้างคนอื่นขับให้
- จะทำกินเองแบบง่ายๆ ในครัวก็ทำได้ แต่ไม่ยอมทำต้องออกไปซื้อเขากินข้างนอก หรือต้องรอคนอื่นซื้อเข้ามาให้ หรือไม่ก็กินของแห้งบรรจุซองพลาสติกแทน
- จะเอาช้อนตักข้าวกินเองก็ได้ แต่ชอบอ้าปากให้ลูกหลานป้อน
- แข้งขาก็ยังดี จะลุกจะเดินเองก็ทำได้ แต่เลือกจะนั่งจุมปุกหรือนอนแซ่วอยู่เฉยๆ ทั้งวัน
- จะเข้าห้องน้ำเองก็ทำได้ แต่ไม่ยอมเข้า ต้องรอลูกหลานมาพาเข้าห้องน้ำ ให้เขาอาบน้ำให้ ให้เขาเช็ดตัวให้
- จะเดินไปอึไปฉี่ที่ห้องน้ำเองก็ทำได้ แต่เลือกที่จะใส่ผ้าอ้อม (แพมเพิร์ส) ทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางวันแสก ๆ และไม่ได้เดินทางไกลไปไหน
- จะผลัดผ้าผลัดผ่อนเองให้เหมาะกับกาลเทศะก็ทำได้ แต่เลือกที่จะทรงชุดนอนตั้งแต่เช้ายันเย็น จนลืมไปว่าชุดนอนที่ใส่อยู่นี้ของเก่าเมื่อวานหรือของใหม่วันนี้
- จะฝึกเดินเหินเองก็ได้ แต่ขี้เกียจ ต้องมีล้อเข็นมีวีลแชร์หรือไม้เท้า หรือเสื้อกันปวดหลัง หรือกาย อุปกรณ์อะไรก็ตามที่ซื้อมาใช้เพราะความขี้เกียจ ทำอย่างนั้นจะทุพพลภาพเร็วขึ้น
ข้อมูลโดย นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์
จากคอลัมน์ WELLNESS CLASS นิตยสารชีวจิต ฉบับ 509
บทความน่าสนใจอื่นๆ
“ปล่อยเนื้อปล่อยตัว” สัญญาณหนึ่งของ โรคสมองเสื่อม + ความแก่ชรา
กินเต้าหู้ มาก ทำสมองเสื่อมจริงหรือ
วิธีกินปวยเล้ง ป้องกันโรคสมองเสื่อม