มาเล็งความสุข เมื่อ มะเร็ง ลุกลาม

เคมีบำบัด 8 ครั้ง ฉายแสง 30 ครั้ง ทรมานจนเกือบถอดใจ

คุณเวย์เล่าต่อว่า ในเวลานั้นเนื่องจากก้อนเนื้อร้ายในเต้านมของเธอมีขนาดใหญ่ คุณหมอจึงแนะนำให้รับเคมีบำบัดเพื่อลดขนาด ก่อนผ่าตัดคว้าน และฉายแสง ซึ่งวิธีดังกล่าวล้วนนำพาความทรมานมาให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ไม่น้อย

“เวย์ต้องรับเคมีบำบัดทั้งหมด 8 ครั้ง ฉายแสงอีก 30 ครั้งจำได้ว่า ครั้งแรกที่รับเคมีบำบัดทรมานมาก-ก-ก อาเจียน เหม็นอาหาร กินอะไรแทบไม่ได้เลย ท้องอืด แถมยังท้องผูกอีกต่างหากกินยาถ่ายก็ไม่ช่วยอะไร บางครั้งก็ร้อนวูบวาบ อ่อนเพลีย แค่เดินจากห้องนอนไปห้องน้ำก็ไม่มีแรงแล้ว เคยท้อจนถึงขั้นพูดกับแฟนว่า ไม่อยากรักษาแล้ว ให้มันตายๆ ไปเถอะ ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี”

ความทรมานที่ร่างกายได้รับนั้นสาหัสเกินบรรยาย และความทรมานที่จิตใจได้รับนั้นก็ไม่ได้ย่อหย่อนไปกว่ากัน

“เราเตรียมใจไว้แล้วว่า หลังจากรับเคมีบำบัดผมต้องร่วงแน่แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนั้น แค่ 14 วัน ผมของเวย์ร่วงทีเป็นกระจุก แค่เสย ติดออกมาเป็นกำ เวลานอน ลุกขึ้นมาจากหมอน ผมเต็มหมอนเลย ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เราเจ็บปวดก็จริงแต่สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังคงรักสวยรักงาม มันคือความทรมาน

“ตอนนั้นไม่ทันได้ซื้อวิกเตรียมไว้ หามาได้อันหนึ่งก็คือวิ้ก…วิกไม่ได้ใกล้เคียงกับผมคนเลย (หัวเราะ) ดูเป็นผมหน้าม้าปลอมๆ แต่เวย์ก็ใส่ไปอ่านข่าวมันทั้งแบบนั้นแหละ” เธอหัวเราะร่วนเป็นการผ่อนคลายบรรยากาศ

ก่อนจะแอบกระซิบเคล็ดลับว่า ทุกวันนี้เธอใช้วิธีสั่งทอวิกจากโรงงานทอวิกโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้เส้นผมและทรงผมที่สวยถูกใจดูเป็นธรรมชาตินั่นเอง

ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์สู้มะเร็งลุกลาม

แม้จะยืนหยัดต่อสู้กับเจ้ามะเร็งร้ายด้วยความเข้าใจและยอมรับมากขึ้น แต่ใช่ว่าโรคนี้จะยอมรามือจากคุณเวย์ง่ายๆ เพราะผ่านไปเพียงแค่ปีกว่ามันก็เริ่มกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง แถมคราวนี้ยังรุนแรงกว่าที่เคยเสียอีก

“จู่ๆ เวย์ก็มีอาการปวดหลังมาก ตอนแรกคิดว่ากล้ามเนื้ออักเสบกินยา ทำกายภาพก็ไม่หายสักที ยิ่งนานวันก็ยิ่งปวด พอไปหาคุณหมอถูกจับตรวจเอ็มอาร์ไอ ถึงรู้ว่ามะเร็งลามมาที่กระดูกสันหลังและกระดูกสะโพกเรียบร้อยแล้ว

“คุณหมอพูดกับเวย์สั้นมาก แต่ทำให้น้ำตาไหลเลยว่า ‘รักษากันอีกยาวนะ’ แค่นี้เวย์ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึก ณ เวลานั้นคือ มันแย่มากนะ เราเพิ่งผ่านการรักษา เพิ่งจะสัมผัสกับคำว่าโรคสงบ ได้แค่ 4 - 5 เดือน มันก็กลับมาอีกแล้ว”

การลุกลามของโรคร้ายในคราวนี้ทำให้คุณเวย์ต้องถูกฉายแสงอีก 20 ครั้ง พร้อมกับติดตามผลการรักษาเป็นประจำ และล่าสุดเธอก็ต้องช็อกอีกครั้งเมื่อพบว่ามะเร็งกำลังย้ายถิ่นฐานมายังตับของเธอ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ เพราะเธอเลือกที่จะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์สู่วิถีแห่งสุขภาพแบบ 360 องศา ไม่ใช่เพียงเพื่อให้มีแรงต่อสู้กับขั้นตอนการรักษาที่สุดแสนทรหดเท่านั้น แต่เพื่อการมีสุขภาพที่ดี เป็นปราการป้องกันโรคร้ายนั่นเอง

“มะเร็งเปลี่ยนชีวิตเวย์ไปโดยสิ้นเชิง มันทำให้เห็นคุณค่าของลมหายใจมากขึ้น เมื่อก่อนใช้ชีวิตเต็มที่มาก อยากกิน กิน อยากเที่ยวเที่ยว ไม่เคยระมัดระวังตัวเอง เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า อะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เราลดละเลิกหมด เช่น อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของหมักของดอง ขนมหวาน น้ำอัดลม หันมากินข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และผักผลไม้มากขึ้น

“ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เวย์จะดื่มน้ำผักผลไม้วันละ 1 แก้ว ประมาณ 250 - 500 ซีซี โดยจะเอามะเขือเทศ แครอต บีทรู้ต แอ๊ปเปิ้ลเขียว แอ๊ปเปิ้ลแดง มาปั่นรวมกัน บางวันก็ใส่คะน้าหรือเซเลอรี่ผสมลงไปทั้งหมดนี้นอกจากจะมีสารแอนติออกซิแดนต์ ป้องกันมะเร็งแล้วยังช่วยให้ผิวพรรณและระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วยค่ะ”

ดูแลร่างกายด้วยอาหารที่ดีมีประโยชน์แล้ว คุณเวย์ก็ไม่ลืมที่จะปรุงยาขนานเอกอย่าง “กำลังใจ” ให้ตัวเองเช่นกัน

“เวย์เห็นคนที่รอดตายจากมะเร็งหลายคน ซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดีนั้นหรือเปล่า แต่ถ้ามัวคิดว่าเป็นมะเร็งแล้วต้องตายก็เหมือนไปสั่งจิตตัวเอง ทุกวันนี้เวย์ก็เลยเชื่อมั่นว่าเราจะต้องหายมะเร็งไม่เท่ากับตายเสมอไป”

ข้อมูลจาก คอลัมน์ประสบการณ์สุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 450

บทความน่าสนใจอื่นๆ

มะเร็งเต้านมเช็คด้วยตัวเองง่าย ๆ หรือด้วยโปรแกรม Mammogram

ข้อเท็จจริงของ “มะเร็งเต้านม”

เหตุผลต้องรู้ ก่อนตรวจหายีนมะเร็งเต้านม

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่