วิธีเลือกอาหาร อาหารสุขภาพ อาหารชีวจิต

วิธีเลือกอาหาร เพื่อสุขภาพ By กูรูต้นตำรับชีวจิต

1. ข้าว 

แน่นอนต้องเป็นข้าวไม่ขัดขาว ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือก็ได้ ข้าวแดงก็ได้ หรือใครโชคดีอย่างผม จะกินข้าวดอยของชาวเขาแทนข้าวกล้องก็ได้ ถ้าชอบขนมปังแทนข้าวก็ขอให้เป็นขนมปังโฮลวีต

ถ้าใครอยากจะให้อาหารกลุ่มแป้งมีรสชาติขึ้น ให้เอาอาหารกลุ่มที่เป็นทั้งแป้งแถมยังมีโปรตีนปนอยู่ด้วยมารวมกับอาหารประเภทแป้งก็ได้ ที่รวมกันได้คือ ฟักทอง มันเทศ มันไข่มันเลือด เดี๋ยวนี้มีพันธุ์มันแปลกๆ อร่อยมาก (มันฝรั่งมีแป้งแต่ไม่มีโปรตีน)

2. ผัก 

ชนิดคุณค่านำหน้าผักอื่นๆ เช่น ผักโขม (พันธุ์ของฝรั่งและของจีนใบนิ่มอร่อย แต่พันธุ์ไทยใบและต้นค่อนข้างหยาบแข็ง แถมต้นยังมีหนามด้วย แต่มีใยอาหารดีมาก) รองลงไปได้แก่ บรอกโคลี คะน้า ผักไต้หวัน (บางคนเรียกผักฮ่องเต้) คะน้าฮ่องกง (ต้นสั้นๆ เตี้ยๆ เขียวจัด เนื้อหวานกว่าคะน้าธรรมดา)

ผักเหล่านี้ใบเขียวจัด มีวิตามินบี 6 มากที่สุด นอกจากนั้นยังมีวิตามินอี กรดโฟลิก (ช่วยบำรุงเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงดี เพราะไปกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเลือดได้ดี)

นอกจากนั้นยังมีแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียมแร่ธาตุสำคัญของร่างกายด้วย สำหรับแคลเซียมนั้นหลายคนแม้แต่แพทย์บางคนแนะนำว่า ถ้ามีปัญหาเรื่องกระดูกต้องกินแคลเซียมมากๆ

กินแคลเซียมอย่างเดียวไม่พอครับ แคลเซียมจะไม่เข้าไปบำรุงกระดูกตามที่เราต้องการ ตามหลักวิชาออร์โธโมเลกุลาร์ (ORTHOMOLECULAR) คือชีวเคมีของวิตามิน ต้องกินแคลเซียมคู่กับแมกนีเซียมจึงจะได้ผลต่อกระดูกและข้อต่อ

ผักที่แนะนำนั้น มีทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมอยู่ในตัวกินผักแบบนี้จึงเท่ากับได้ทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมพร้อมๆ กันแต่ระวังอย่าให้เว่อร์ อยากให้กระดูกแข็งแรงเร็วๆ เลยกินผักอย่างที่แนะนำนี้มื้อละ 2 - 3 ตะกร้า ไม่ได้ครับ ไม่ได้ กินอย่างนั้นมีหวังจุก (ทั้งท้องและอก) ตาย

 

วิธีเลือกอาหาร อาหารสุขภาพ อาหารชีวจิต

3. โปรตีน 

ใช้ทั้งโปรตีนจากพืชและเนื้อสัตว์ร่วมกันจากพืชขอแนะนำถั่วเหลืองและถั่วดำ (ชนิดมีตาขาวๆ ตรงกลางเม็ดถั่ว) พร้อมทั้งแนะนำเต้าหู้ด้วย ในขณะเดียวกันก็แนะนำโปรตีนจากปลาพร้อมกันไปด้วยใช้ปลาทูน่าและปลาแซลมอนกระป๋องก็พอเชื่อถือได้ โปรตีนจากพืชคือถั่วนั้น จะได้วิตามินบี 6 กรดโฟลิกแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม เต้าหู้นั้นไม่มีวิตามินบี 6 แต่มีสารอื่นๆ เหมือนกับพวกถั่ว ปลาทูน่าและแซลมอนมีวิตามินบี 6 บี 12 มาก แถมยังมีวิตามินอีชนิดดีด้วย มีแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียมในปริมาณที่เหมาะกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

 

4. เบ็ดเตล็ด 

แรกทีเดียวสาหร่ายทะเลเอาไปทำแกงหรือผัดก็ได้ ผลไม้ไม่หวานลองมะละกอ แตงโม สับปะรดแถมด้วยพุทราลูกใหญ่ๆ และกรอบๆ สัก 2 - 3 ลูก และอย่าลืมตามด้วยเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน กินเล่นๆ สักอย่างละ 2 กำมือ และควรแถมจมูกข้าวลงไปสัก 1 - 2 ช้อนชา ทั้งหมดนี้เมื่อได้เนื้ออาหารมาแล้ว คุณต้องจัดสัดส่วนให้พอดีด้วย

ถ้าคุณรูปร่างปานกลาง พอดีๆ กำลังสวย ก็ใช้สูตรอาหารสูตร 1 คือ ข้าว 50 เปอร์เซ็นต์ ผัก 25 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน (ทั้งพืชและปลา) 15 เปอร์เซ็นต์ และเบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์เปอร์เซ็นต์เหล่านี้หมายถึง สัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์ของอาหาร 1 มื้อ (1 มื้อก็เท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์)

ถ้าตุ้ยนุ้ยหน่อยคือน้ำหนักมาก ก็ใช้สูตร 2 คือ ข้าว 30 เปอร์เซ็นต์ ผัก 35 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 25 เปอร์เซ็นต์ และเบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์

ลองสังเกตดูนะครับ อาหารแต่ละมื้ออย่างที่แนะนำเป็นอาหารเกรดเอของแต่ละกลุ่ม อย่างเช่น ผัก แนะนำผักโขมและบรอกโคลี ถือว่าเป็นผักเกรดเอ

ถ้าสารอาหารทุกอย่างเกรดเอ เวลามีมันแปลงตัวมาเป็นส่วนต่างๆ ของร่างกายเรา แน่นอนร่างกายก็เกรดเอตามไปด้วย

แล้วเรื่องอาหารต้องอร่อยล่ะจะว่าอย่างไร อ้าว ต้องฝีมือของคุณเองละสิครับ รู้ไหม เคล็ดลับนิดเดียวทำอะไรอร่อย

เคล็ดลับนั้นคือ คุณต้องรักอาหาร ต้องรู้ว่าอาหารนั้น ต้องมาเป็นเลือดเป็นเนื้อของคุณเอง รักตัวเอง ต้องทำให้อร่อยสำหรับตัวเองสิครับ

 

ข้อมูลจาก คอลัมน์เปิดประตูหลังบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 339


บทความน่าสนใจอื่นๆ

สังเกตฉี่ สังเกตโรค by กูรูต้นตำรับชีวจิต

14 สัญญาณเตือนเมื่อร่างกายเกิดความเสื่อม สไตล์อาจารย์สาทิส

กินอยู่ครบสูตร ด้วยผักผลไม้ ต้านโรคเอสแอลอี โรคภูมิแพ้

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.