ชวนกินอาหารเชิงรุก ต้านอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย

กินเชิงรุก ต้านท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

สำหรับคนที่อาจกำลังเผชิญกับภาวะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยอยู่ ซึ่งเป็นอาการที่สร้างความรำคาญ ไม่สบายเนื้อตัวอย่างมาก และนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ วันนี้เราจึงนำวิธีกินอาหารเชิงรุก ต้านท้องอืด ตั้งแต่เริ่มต้น มาฝากกันที่บทความด้านล่างนี้

คำแนะนำจากกูรู

นายแพทย์ไมเคิล เจนเซน (Michael Jensen) ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและโรคอ้วน เมโยคลินิก (Mayo Clinic) ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หากเป็นผู้ที่มีสุขภาพปกติ(ไม่มีโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง) อาการท้องอืด แน่นท้อง ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากแก๊สในกระเพาะอาหาร

แม้การกินอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยจะบรรเทาอาการผิดปกติต่างๆของระบบทางเดินอาหารและเร่งขับลมออกจากร่างกายได้ แต่ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ทางที่ดีควรเริ่มจากหลีกเลี่ยงอาหารและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดแก๊สและสารพัดอาการลำไส้ปั่นป่วน เพื่อช่วยลดภาระให้กระเพาะและลำไส้ตั้งแต่ต้นทาง ด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

เคี้ยวอาหารให้ละเอียดอย่างช้าๆ

การกินอาหารเร็วเกินไปจะเกิดลมขณะกลืนอาหารทำให้ท้องอืดได้ควรใช้เวลากินอาหารอย่างน้อยมื้อละ 30 นาทีและเคี้ยวอาหารให้ละเอียด

เนื่องจากระบบย่อยอาหารเริ่มต้นที่ปาก การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยให้อาหารมีขนาดเล็กลง เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) จากน้ำลายจึงสามารถสัมผัสอาหารได้มาก ช่วยให้การย่อยอาหารประเภทแป้งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ระบบย่อยไม่ต้องทำงานหนักเกินไปอีกด้วย

งดผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี

หากมีอาการปวดท้องท้องเสีย ท้องอืดบ่อยครั้งหลังกินพาสต้า แครกเกอร์ ซีเรียล ขนมปัง ขนมอบ ให้สันนิษฐานว่าอาจมีอาการแพ้
โปรตีนกลูเตนในแป้งสาลี

หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคแพ้โปรตีนกลูเตนควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มนี้และเลือกกินอาหารปลอดโปรตีนกลูเตน ได้แก่ ข้าวกล้อง แป้งข้าวเจ้า แป้ง ถั่วเหลือง แป้งมันฝรั่ง เนื้อปลา อาหารทะเล น้ำมันพืช ผัก และผลไม้แทน

หลังกินอาหารปลอดโปรตีนกลูเตน อาการต่างๆจะทุเลาลงภายใน 2 – 3 สัปดาห์

หลีกเลี่ยงของหวานสร้างแก๊ส

เช่น เครื่องดื่มอัดลม น้ำโซดา นอกจากนี้ขนมหวานแปรรูป ทั้งลูกอมและหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของซอร์บิทอล (Sorbitol) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียได้

ส่วนกัวร์กัม (Guar Gum) เป็นสารปรุงแต่งที่ช่วยให้อาหารข้นเหนียว พบมากในลูกอม หมากฝรั่ง ช็อกโกแลต ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ตามมาด้วยอาการปวดท้องและแน่นท้อง

ไม่ปล่อยให้ท้องผูก

หากไม่ขับถ่ายติดต่อกันนาน 3 วัน ร่วมกับมีอาการแน่นท้อง อุจจาระแข็ง และต้องอาศัยแรงเบ่งมากเวลาขับถ่าย ควรรีบหาทางแก้ไข เพราะไม่เพียงทำให้เกิดอาการอึดอัดไม่สบายท้อง แต่ยังอาจมีความเสี่ยงโรคร้าย เช่น โรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ตามมา

วิธีแก้ คือ กินผักและผลไม้เพิ่มขึ้น ร่วมกับดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 6 – 8 แก้ว เพราะใยอาหารในผักและผลไม้ทำให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อนและเพิ่มน้ำหนัก ช่วยให้ขับถ่ายง่าย ส่วนน้ำช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวและเคลื่อนออกจากลำไส้ได้ง่าย

อาจารย์สาทิสแนะนำอาหารชีวจิตสูตร 1 ที่อุดมด้วยใยอาหารสูงช่วยขับถ่าย โดยมีสัดส่วนอาหารประเภทข้าวและแป้งไม่ขัดขาวร้อยละ 50 ผักดิบและผักสุกร้อยละ 25 ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วร้อยละ 15 สุดท้ายคืออาหารเบ็ดเตล็ดร้อยละ 10 ได้แก่ น้ำซุป สาหร่าย งา และผลไม้รสไม่หวาน

เพียงกินผักและผลไม้อุดมเอนไซม์ช่วยย่อย ทั้งไม่ลืมเคี้ยวอาหารให้ละเอียด หลีกเลี่ยงอาหารทำร้ายลำไส้ รับรองว่าบอกลาสารพัดอาการอึดอัดแน่นท้องได้เลย


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็ก 3 พฤติกรรมทำ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย พุงป่อง

หลากวิธีสยบอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย

4 วิธีป้องกันท้องอืด จากพืชผัก

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.