เครียดหลังน้ำท่วม ทำอย่างไรดี
เครียดหลังน้ำท่วม หรือโรคเครียดหลังประสบเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD: Post-traumatic Stress Disorder) เกิดได้ไม่บ่อยนักแต่มีความรุนแรง นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต โรงพยาบาลศรีธัญญา อธิบายรายละเอียดว่า “เป็นภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังพบเหตุการณ์ความรุนแรง เช่น อยู่ในเหตุการณ์ร้ายแรง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ถูกทำร้ายร่างกายโดนปล้น ถูกทารุณกรรมทางเพศ หรือพบเห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ”
เมื่อฟังคุณหมออธิบายจบ ภาพของคุณป้าท่านหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของฉันทันทีท่านสูญเสียลูกชายไปจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 สร้างความหวาดกลัวและความสะเทือนใจให้กับท่านเป็นอย่างมากแม้เวลาจะผ่านพ้นมานานกว่า 10 ปีแล้วแต่คุณป้าก็ไม่สามารถลืมเลือนเหตุการณ์นั้นได้ ทั้งยังจมดิ่งอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจมากยิ่งขึ้น เมื่อมีสิ่งกระตุ้นเตือนความทรงจำ เช่น ข่าว คำบอกเล่าต่าง ๆ
How to check : อาการเบื้องต้นของโรคเครียดหลังน้ำท่วม
หลังประสบเหตุการณ์สะเทือนใจมีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่เป็นจะรู้สึกหวาดกลัวมากและรู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกโดยภาพเหตุการณ์นั้นยังติดตาและตามมาหลอกหลอน (Flashback)
- แม้ว่าเหตุการณ์น่ากลัวจะผ่านไปแล้ว แต่ร่างกายยังตื่นตัว ทำให้รู้สึกกระวนกระวาย ผุดลุกผุดนั่งไม่มีสมาธิ ใจสั่น ตกใจง่าย สะดุ้งง่าย เกิดความเครียดง่ายกับเรื่อง
ธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อมีอะไรมาสะกิดให้นึกถึงเหตุการณ์นั้น - บางรายมีอาการนอนหลับยาก คลื่นไส้ ท้องร่วง ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น
- โดยทั่วไปแล้วอาจมีอาการหลังจากประสบเหตุ 3 – 6 เดือน
เครียด วิตกกังวลแก้ไขอย่างไรดี
หลังจากพูดคุยกับคุณหมอและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรควิตกกังวลชนิดต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือภาวะเครียดหลังจากน้ำลด หรือเกิดภัยพิบัติ ทำให้ฉันรู้ว่ามีคนรอบข้างจำนวนไม่น้อยที่กำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ จนต้องรีบสอบถามวิธีแก้ไขจากคุณหมอโดยด่วนโดยคุณหมออภิชาติแนะนำว่า หนทางรักษาที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์เพราะสามารถตรวจวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำว่ามีอาการของโรคกลุ่มวิตกกังวลหรือไม่ ไม่ควรคิดและแก้ไขเอง ซึ่งสรุปกระบวนการรักษาได้ดังต่อไปนี้
- ยา ตัวช่วยเบื้องต้น ในการรักษาขั้นต้นอาจมีการใช้ยา หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง หรือใช้ยาเพื่อลดอาการวิตกกังวลในระยะแรก เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ
ยาบำรุงประสาท เป็นต้น - จิตบำบัด ระบายทุกข์ การรักษาด้วยจิตบำบัดจะทำโดยนักจิตบำบัดวิชาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ นักจิตบำบัดจะช่วยให้ผู้ที่เป็นได้ระบายความทุกข์และเข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง และช่วยค้นหาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมเพื่อให้คลายความวิตกกังวลการรักษาด้วยจิตบำบัดอาจเพียงพอสำหรับผู้ที่มีความกังวลบางรายแต่บางรายอาจต้องใช้วิธีอื่นรักษาร่วมด้วย
- พฤติกรรมบำบัด สร้างกำลังใจ โดยการให้เข้าเผชิญกับสิ่งที่ทำให้กลัวและปรับให้คิดทางบวกเพิ่มขึ้นการรักษาจะค่อยเป็นค่อยไป ต้องใช้เวลา อย่าคาดหวังว่าจะหายได้ทันทีเพราะจะทำให้ผิดหวังและหมดกำลังใจ ในบางรายที่มีอาการกลัวหรือวิตกกังวลมากจนทุกข์ทรมานและกระทบต่อการดำเนินชีวิตอาจต้องใช้ยาร่วมด้วย
“นอกจากนี้ผู้ป่วยต้องเริ่มต้นที่ตัวเองด้วย คือต้องยอมรับความจริงว่าเป็นโรคนี้ และถ้าต้องการให้อาการเหล่านี้หายไป ต้องตัดสินใจต่อสู้และอดทน รวมถึงพยายามหากิจกรรมอื่น ๆ ทำเพื่อให้เกิดความสุข ซึ่งช่วยให้ค่อย ๆ หายจากอาการเหล่านั้นได้” คุณหมอกล่าวเสริม
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อวิตกกังวล
นอกจากการปฏิบัติตนตามคำแนะนำของคุณหมอแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากอาการวิตกกังวลประกอบด้วยอาการทางกายและทางความคิด การปรับความคิดอาจต้องใช้เวลา ส่วนอาการทางกายนั้นสามารถบำบัดด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
ผู้ที่มีความเครียดหรือวิตกกังวล ควรฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อและควบคุมการหายใจ จะเป็นการผ่อนคลายความวิตกกังวลในเบื้องต้นสามารถเริ่มทำได้โดยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวน หายใจเข้า – ออกช้า ๆ นับ 1 – 10 ต่อการหายใจเข้า – ออกแต่ละครั้ง โดยอยู่ในท่านั่งหรือท่านอนที่สบาย เมื่อทำตามวิธีดังกล่าวจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อระบบประสาทอัตโนมัติลดลง อย่างไรก็ตาม ควรทำอย่างสม่ำเสมอวันละ 10 – 15 นาที จะช่วยป้องกันความเครียดและความวิตกกังวลไม่ให้อาการ
รุนแรงจนพัฒนากลายเป็นโรควิตกกังวลในภายหลังได้ดูแลสุขภาพกายแล้ว ก็อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพใจร่วมด้วย เพื่อจะได้ห่างไกลโรควิตกกังวลอย่างไรล่ะคะ
อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท
เนื่องจากความวิตกกังวลส่งผลให้เกิดความเครียด ซึ่งการหลั่งฮอร์โมนความเครียดในระดับสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำลายสมอง ทำให้ความจำเสื่อม เกิด
ความวิตกกังวล และไม่สามารถควบคุมการระเบิดอารมณ์ได้ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำสารอาหารบำรุงสมองและระบบประสาทที่มีอยู่
ในอาหารธรรมชาติไว้ในนิตยสาร ชีวจิต คอลัมน์ เรื่องพิเศษ ฉบับที่ 326 ดังนี้
- วิตามินบี1 ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ข้าวสาลีไม่ขัดขาว ข้าวโอ๊ต และถั่วลิสง
- วิตามินบี 6 ข้าวซ้อมมือ จมูกข้าว แคนตาลูป และกะหล่ำปลี
- วิตามินบี 12 ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ และนม
- กรดโฟลิก (Folic Acid) ผักใบเขียวเข้มทุกชนิด แครอต ตับ แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง
และข้าวซ้อมมือ - ไนอะซิน (Niacin) ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ปลา ไข่ ถั่วลิสงคั่ว อินทผลัม มะเดื่อ และไก่ (เนื้อขาว)
- สังกะสี (Zinc) จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง บริวเวอร์ยีสต์ ไข่ นม และมัสตาร์ดผง
- โพแทสเซียม (Potassium) ส้ม ส้มโอ แคนตาลูป มะเขือเทศ แห้ว ผักใบเขียว สะระแหน่ เมล็ดทานตะวัน กล้วยน้ำว้า มันเทศ และมันฝรั่ง
- เคลป์ (Kelp) สาหร่ายทุกชนิด
- ทริปโตแฟน (Tryptophan) ปลา กล้วย อินทผลัม และถั่วลิสง
- ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง งา เมล็ดฟักทอง กุ้ง และหอย
- ดีเอ็นเอ / อาร์เอ็นเอ (DNA/RNA) จมูกข้าว รำข้าว ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดทุกชนิด หัวหอมใหญ่ เเละปลา
ชีวจิตขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วม เเละภาวะเครียดหลังน้ำท่วม ฟื้นตัวกลับมาไวๆค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
5 โรคติดต่อ ควรเฝ้าระวังพิเศษ และกลุ่มโรคที่พบบ่อยในหน้าฝน
เครียดหลังน้ำท่วม (PTSD) ดูแลป้องกันตัวเองอย่างไร
วิธีคลายเครียด หลังเลิกงาน เคล็ดลับของคนวัยทำงานตามแบบฉบับญี่ปุ่น
รู้ทันโรค วิตกกังวล ก่อนจิตป่วย
อ้างอิง : นิตยสาร ชีวจิต ปี 2558 ฉบับที่ 400 (1 มิ.ย. 58) หน้า 28-33
ชื่อคอลัมน์ : เรื่องพิเศษ
ชื่อบทความ : stop 5 anxiety disordes รู้ทันโรควิตกกังวลก่อนจิตป่วย