วันที่หนึ่ง เวลา 5.30 น.
เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น วันนี้ฉันตื่นเร็วกว่าเดิมหนึ่งชั่วโมง อันดับแรกที่เริ่มทำคือการต้มน้ำอาร์ซี https://goodlifeupdate.com/healthy-body/65775.html ดื่มรับอรุณรุ่ง
ข้าวอาร์ซี 9 ชนิดที่ซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน บรรจุแยกในขวดโหลอย่างดี และกันหลงลืม ฉันจึงแยกขวดโหลเป็น 3 กลุ่ม ตามวิธีการต้ม คือ
กลุ่มที่1 ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ลูกเดือย ลูกบัว ข้าวฟ่าง
กลุ่มที่2 ข้าวแกง ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวกล้อง
กลุ่มที่3 ข้าวโอ๊ต
ไม่รอช้า เติมน้ำลงหม้อ 2 ลิตร กำข้าวกลุ่มแรกขึ้นมา 1 กำมือ ซาวจนสะอาดแล้วใส่ลงในหม้อ ต้มจนเดือน ระหว่างรอเดือด กำข้าวกลุ่มที่ 2 ขึ้นมา 2 กำมือ ซาวให้สะอาด ใส่ลงไปเมื่อข้าวกลุ่มแรกเดือน ปล่อยทิ้งไว้ 3-5 นาที แต่เผอิญด้วยความสะเพร่า ฉันมัวแต่ไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำดีท็อกซ์ กลับมาดูน้ำอาร์ซีในหม้ออีกที กลายเป็นน้ำแป้งขุ่นเล็กน้อย ฉันรีบเติมข้าวโอ๊ต ปิดไฟ รอสักครู่จึงรินน้ำอาร์ซีมาดื่ม
สำหรับวันนี้การทำน้ำอาร์ซีล้มเหลว เพราะการต้มนานเกินไปจึงเป็นการทำลายกลูโคส RNA และ DNA ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ (เป็นสารอาหารที่ไปเลี้ยงประสาทสมองและร่างกาย) จึงทำให้กระชุ่มกระชวยน้อยลงไปนิดหน่อย
ส่วนกากข้าวที่เหลือ เติมน้ำต้มเป็นข้าวต้มไว้กินในมื้อเช้า กลางวัน เย็น แล้วจึงรีบไปรำกระบอง ต่อด้วยการทำดีท็อกซ์ และกินข้าวต้มอาร์ซีกับผัดผักหวาน ซึ่งผัดเผื่อไว้สำหรับมื้อกลางวันด้วย
ตลอดวันนี้ฉันรู้ว่าร่างกายเบาขึ้นเล็กน้อย (แอบชั่งน้ำหนักก่อนทำไว้ด้วยว่าหนัก 52 กิโลกรัม) และสามารถทำงานได้เป็นปกติ
อ้อ! ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้ใช้งบประมาณไปแล้วทั้งสิ้นประมารณห้าร้อยกว่าบาท (ชุดดีท็อกซ์และกาแฟ ข้าวอาร์ซีถุงใหญ่ 9 ชนิด อาหาร 3 มื้อ)
สูตรเด็ดเคล็ดลับต้มน้ำอาร์ซี
ถ้าอยากให้น้ำอาร์ซีหอมมากขึ้น เวลาต้มก็ใส่ใบเตยหอมลงไปด้วย ทีนี้น้ำอาร์ซีก็จะยิ่งหอม บำรุงหัวใจด้วย อาจเติมงาคั่วป่นหรือจมูกข้าวลงไปด้วยก็ได้
วันที่สอง
นาฬิกาหัวเตียงดังเช่นเคย ตื่นเช้าพร้อมกับความตั้งใจว่า วันนี้จะทำน้ำอาร์ซีให้หอมกรุ่นและได้คุณค่า แล้วความหวังก็สำเร็จ ฉันได้ดื่มน้ำอาร์ซีสีน้ำตาลแดง
แหม! กระชุ่มกระชวยดีจริงๆ จึงไม่รอช้า คว้าไม้กระบองคู่ใจไปรำกระบองหน้าบ้าน วันนี้เผอิญพบคุณอาข้างบ้านซึ่งไม่เคยเห็นการรำกระบองเลย จึงตั้งหน้าตั้งตาแซวหลานสาวใหญ่เลยว่าจะลดหุ่นไปถึงไหน
ว้า! การรำกระบองคนเดียวโด่เด่นอกจากเหงาแล้วยังถูกแซวอีกต่างหาก แต่ฉันก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำอยู่จะเห็นผลอีก 12 วันข้างหน้า สู้ๆ (แม้ว่าวันนี้ยังทำท่าไหว้พระอาทิตย์ไม่สวยพอ เพราะยังโค้งตัวไม่ได้มากก็ตามที แต่ก็รำได้ถึงพีคทุกวัน)
มื้อเช้าและมื้อกลางวันกินข้าวต้มกับเห็ดสวรรค์ ส่วนมื้อเย็นกินสลัดผักและมะละกอ
สถานการณ์สุขภาพวันนี้เริ่มรู้สึกเพลีย อาจเป็นเพราะว่างดแป้งและอาหารหวานในทันที รวมถึงรู้สึกว่ากินอาหารได้น้อยลง เลยทำให้ต้องใช้สมาธิในการทำงานมากขึ้น
วันนี้ฉันเสียค่าใช้จ่ายในการทำอาหารประมาณร้อยกว่าบาท (จากการซื้อเห็ดเออรินจิ สลัดผัก และมะละกอ)
(โชคดีจริงๆ ที่น้ำหนักไม่ถึง 60 กิโลกรัม มิฉะนั้นวันแรกต้องทำการล้างพิษออกจากร่างกายด้วยการงดอาหารงดอาหาร แต่สามารถตื่นแต่เช้ามืด เมื่อตื่นนอนแล้ว หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมงจึงดื่มน้ำมะนาวสดคั้น 4 ลูก และดื่มน้ำอาร์ซีแทนอาหาร 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น และควรจะดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 4 แก้วหรือมากกว่านั้น)
