การดูแลตนเองและพบแพทย์
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐานเพื่อลดโอกาสติดเชื้อซ้ำซ้อน และเพื่อสุขภาพจิตที่ดี
- พักผ่อนให้เต็มที่
- กินอาหารมีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ทุกวัน กินผักและผลไม้มากๆ เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ครบถ้วน ยกเว้นผลไม้ที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ไม่ต้องกินมาก
- ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่ม เพื่อให้ช่องปากชุ่มชื้น ช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลได้ และเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
- กินยาและทายาสม่ำเสมอตามแพทย์ พยาบาล หรือเภสัชกรแนะนำ
- บ้วนปากทุกครั้งหลังกินอาหารและดื่มเครื่องดื่ม และเมื่อรู้สึกปากแห้ง (เมื่อปากแห้งจะเจ็บแผลมากขึ้น) อาจด้วยน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำยาบ้วนปาก หรือตามแพทย์แนะนำ
- ลองเปลี่ยนยี่ห้อยาสีฟัน
- ควรพบแพทย์เสมอเมื่อแผลร้อนในเกิดบ่อยมาก เพื่อหาสาเหตุ
- เมื่อมีแผลร้อนใน ควรรีบพบแพทย์เมื่อ
- มีไข้สูง และไข้ไม่ลงภายหลังกินยาลดไข้แล้ว 1-2 วัน
- กินอาหารหรือดื่มน้ำได้น้อย หรือไม่ได้เลย
- อ่อนเพลียมาก
- เจ็บแผลมาก
- แผลมีเลือดออกตลอดเวลา
- แผลมีขนาดใหญ่เกิน 1 เซนติเมตร เพราะอาจเป็นแผลจากสาเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่แผลร้อนใน
- เมื่อมีความกังวลกับแผล
การป้องกัน
ในปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของโรคแผลร้อนใน จึงยังไม่มีวิธีป้องกัน แต่อาจลดโอกาสการเกิดได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยง ดังได้กล่าวแล้ว เช่น
- พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพจิตไม่ให้เครียด
- กินอาหารมีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ทุกวัน เพิ่มผักและผลไม้ให้มาก เพื่อป้องกันการขาดวิตามินและเกลือแร่ และสังเกตความสัมพันธ์ของประเภทอาหารกับการเกิดโรคเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว
- ลองเปลี่ยนยี่ห้องยาสีฟันเมื่อเกิดแผลร้อนในบ่อยๆ
- เลือกแปรงสีฟันชนิดขนแรปงนุ่ม เพื่อลดโอกาสเกิดแผลของเยื่อเมือกช่องปากและเหงือก
- เคี้ยวอาหารให้ช้าลง ไม่รีบเคี้ยว เพื่อลดโอกาสกัดลิ้นและริมฝีปากตนเอง
ข้อมูลจาก หนังสือโรคของช่องปากและฟัน สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
กินยาอุทัย บำรุงเลือด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ