ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นเหตุของการเกิดโรคหืด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. ปัจจัยภายในตัวเอง ได้แก่
โรคภูมิแพ้ : เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เราพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคหืดเกิดมาจากภูมิแพ้
กรรมพันธุ์ : โรคหืดหรือโรคภูมิแพ้อื่นๆ
เพศ : ในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เด็กชายจะเป็นโรคนี้มากกว่าเด็กหญิงในวัยผู้ใหญ่ ผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชาย
2. ปัจจัยภายนอก ได้แก่
การได้รับสารก่อภูมิแพ้ : เช่น ไรฝุ่น เศษโปรตีนจากสัตว์เลี้ยง แมลงสบ เชื้อรา ละอองเกสรต่างๆ
มลพิษจากการทำงาน : เช่น ก๊าซพิษต่างๆ ฝุ่นแป้ง ฝุ่นจากการไสไม้ สารเคมีต่างๆ
ควันบุหรี่ : ทั้งที่ผู้ป่วยสูงเองหรือได้รับจากคนข้างเดียง
มลภาวะทางอากาศ : เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โอโซน ไนโตรเจนออกไซด์ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ก๊าซที่ใช้ในการหุงต้มอาหาร
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ : เช่น เชื้อไวรัสโรคหวัดหลายชนิด
สิ่งที่ทำให้อาการของผู้ป่วยกำเริบขึ้น ได้แก่
1. ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นเหตุของการเกิดโรคหือ ดังรายละเอียดข้างต้น ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีสาเหตุแตกต่างกันไป
2. ปัจจัยที่แม้ไม่ได้เป็นต้นเหตุในการเกิดโรคหืดในผู้ป่วยรายนั้น แต่ก็สามารถกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบขึ้นได้ เช่น การออกกำลังกาย การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศ ความเย็นยาบางชนิด เช่น แอสไพริน อารมณ์รุนแรง โรคหวัด โรคไซนัสอักเสบ เขม่าควัน ควันท่อไปเสีย ควันธูป ควันบุหรี่ ควันจากการประกอบอาหาร กลิ่นฉุน สเปรย์ อาหารที่แพ้
การวินิจฉัยโรคหืด ประกอบด้วย
1. การซักประวัติอย่างละเอียด เกี่ยวกับอาการของโรค ประวัติโรคภูมิแพ้อื่นๆ รวมถึงประวัติโรคกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อมที่บ้านและที่ทำงาน วิธีการรักษาที่ผ่านมา
2. การตรวจร่างกาย หากตรวจขณะอาการกำเริบอาจได้ยินเสียวี้ดในปอด หายในลำบาก หายใจแรงจนหน้าอกบุ๋ม แต่หากตรวจในขณะโรคสงบอาจไม่พบความผิดปกติใดๆ เลยก็ได้
3. การตรวจสมรรถภาพปอด เป็นการตรวจว่าปอดของผู้ป่วยทำงานได้ปกติหรือไม่ มีการหดตัวของหลอดลมมากน้อยเท่าใด สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุ 5 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ยังควรทำการตรวจสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง ซึ่งสามารถได้ง่ายๆ ในเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป เป็นการหาว่ามีโรคภูมิแพ้เป็นสาเหตุหรือไม่ และจะทรายได้ด้วยว่าแพ้อะไรบ้าง เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการรักษาต่อไป
การเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วยโรคหืดมักให้ผลปกติ เว้นแต่จะมีโรคแทรกซ้อน