การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
เป็นการล้างเอาคราบน้ำมูกที่อาจอุดตันรูปเปิดของไซนัส ชำระล้างเอาสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกจากจมูก ทำให้โพรงจมูกสะอาด น้ำมูกไม่ข้นเหนียว บรรเทาอาการคัดจมูก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่จมูก สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน วันละ 2 เวลา เช้า เย็น ในช่วงเวลาแปรงฟัน โดยควรล้างก่อนใช้ยาพ่นจมูก และสามารถล้างเพิ่มระหว่างวันได้ถ้ามีน้ำมูกมากหรือคัดจมูก
ขั้นตอน
- ดูดน้ำเกลือ (0.9% normal saline solution) ประมาณ 5 ซี.ซี. เข้าในกระบอกฉีดยา (ที่ไม่มีเข็ม) หรือขวดยาพ่อจมูก
- ก้มหน้าลงเล็กน้อย หายใจเข้าเต็มที่แล้วกลั้นหายใจไว้ อ้าปากเล็กน้อย
- สอดปลายกระบอกฉีดยา หรือหลอดพ่นยาเข้าในโพรงจมูกข้างใดข้างหนึ่ง
- ฉีดหรือพ่นน้ำเกลือเข้าในรูจมูกช้าๆ จนหมด (ขณะนี้ยังกลั้นลมหายใจไว้)
- หายใจออก พร้อมสั่งน้ำมูก หากมีน้ำมูกหรือน้ำเหลือไหลลงคอให้กลั้วคอบ้วนทิ้ง ถ้ายังไม่โล่งก็ทำซ้ำอีกได้
- ทำซ้ำข้อ 1 – 5 กับรูจมูกอีกด้าน
- เก็บอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง น้ำเกลือที่เทออกมาจากขวดแล้วเหลือให้ทิ้งไป
หมายเหตุ ในรายที่ล้างจมูกจนชำนาญแล้ว อาจแหงนหน้า (แทนก้มหน้า) ขณะพ่นน้ำเกลือ เพื่อให้น้ำเกลือเข้าได้ลึกๆ ก็ได้ค่ะ
คำถามที่ถูกถามบ่อย
– ล้างแล้วน้ำเกลือไปไหน จะขึ้นสมองได้หรือเปล่า
น้ำเกลือจะไหลไปในโพรงจมูก ส่วนหนึ่งไหลออกมาทางรูจมูกด้านหน้าก็ให้สั่งน้ำมูกออกมา ที่เหลือไหลไปด้านหลัง ซึ่งอาจไหลออกมาทางปากก็ให้บ้วนทิ้งไป ถ้าไหลลงคอจะกลืนไปเลยก็ได้ ไม่อันตราย น้ำเกลือจะไม่ขึ้นสมองค่ะ
– ทำไมต้องใช้น้ำเกลือ ใช้น้ำประปาแทนได้ไหม
เพราะน้ำเกลือมีคุณลักษณะใกล้เคียงกับน้ำภายในร่างกายเรา ทำให้ล้างแล้วไม่แสบ ถ้าใช้น้ำประปาจะแสบค่ะ
นอกจากนี้น้ำเกลือที่มีจำหน่ายมาเป็นขวด ผ่านการฆ่าเชื้อโรคมาให้แล้ว จึงสะดวกต่อการนำมาใช้
ข้อบ่งชี้ของการผ่าตัด
ส่วนใหญ่การรักษาด้วยยาดังกล่าวมักได้ผลดีประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย แต่การผ่าตัดก็ยังนำมาใช้ในกรณีที่
- เมื่อมีความผิดปกติทางกายภาพของจมูก ซึ่งมีผลต่อการระบายของโพรงไซนัส เช่น ดั้งจมูกคด
- มีริดสีดวงจมูกที่รักษาด้วยยาพ่อจมูกและยารับประทานไม่ได้ผล
- ผู้ป่วยไซนัสอักเสบที่รักษาด้วยยา 4-6 เดือนไม่ได้ผล
- ในรายที่มีโรคแทรกซ้อน เช่น ฝีในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลอดเลือดดำในสมองอักเสบ
ถ้าปล่อยโรคไซนัสอักเสบไว้ไม่รักษาจะเกิดอะไรขึ้น
หากปล่อยให้เป็นโรคโดยไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น
- การอักเสบอาจลุกลามเข้าสู่ลูกตา ทำให้เกิดการอักเสบของลูกตาเป็นหนองในเบ้าตา
- การอักเสบอาจลุกลามเข้าสู่สมอง เกิดเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง ซึ่งเป็นโรคที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
แม้ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้จะไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยทุกราย แต่เนื่องจากเป็นแล้วอันตราย จึงไม่ควรเสี่ยงค่ะ
รักษาหายไปแล้วจะเป็นใหม่อีกได้ไหม
เมื่อรักษาจนหายเรียบร้อยดี เชื้อโรคตายหมดแล้ว (ไม่ว่าโดยการกินยา เจาะล้าง หรือผ่าตัด) ก็อาจเป็นใหม่ได้ถ้ามีเชื้อโรคใหม่ลงไปในโพรงไซนัสอีก โดยเฉพาะคนไข้ภูมิแพ้ เช่น โรคแพ้อากาศ โรคหืด ที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดี จะมีสภาพในโพรงจมูกเอื้ออำนวยให้เกิดไซนัสอักเสบได้ง่ายกว่าคนปกติ
เราจะลดโอกาสเป็นไซนัสอักเสบได้อย่างไร
- รักษาสุขภาพโดยรวม เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
- หากเป็นหวัดไม่ควรปล่อยไว้นาน ควรรีบรักษา
- หากมีโรคแพ้อากาศ ต้องดูแลรักษา
- ควรหลีกเลี่ยงมลพิษต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ ท่อไอเสียรถยนต์
- หากมีโรคในโพรงจมูก เช่น ริดสีดวงจมูก ดั้งจมูกคด ควรรับการรักษา
ข้อมูลจาก หนังสือโรคภูมิแพ้ สำนักพิมพ์คลินิกสุขภาพ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
สูตรชีวจิต แก้ไซนัสอักเสบ ฉบับง่าย ทำได้แน่ๆ
ดูแลตัวเองด่วน ก่อนจมูกเน่าเพราะไซนัส
ประสบการณ์สุขภาพ เยียวยาไซนัส ขั้นรุนแรงด้วยน้ำอาร์ซีชีวจิต