2. การผ่าตัดไส้ติ่ง
การผ่าตัดใหญ่ในอวัยวะระบบใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และต้องการการฟื้นฟูเฉพาะ ได้แก่ การผ่าตัดใหญ่ในระบบทางเดินอาหาร สำหรับการผ่าตัดใหญ่ในระบบนี้ที่พบบ่อยต้องยกให้การผ่าตัดไส้ติ่ง
การผ่าตัดไส้ติ่งมีทั้งการผ่าตัดแบบปกติและการผ่าตัดในกรณีที่ไส้ติ่งแตกจนต้องล้างท้อง คุณหมอรพีพรเล่าถึง การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดไส้ติ่ง ว่า
1. ฟื้นฟูด้วยอาหาร หลังฟื้นจากการผ่าตัดแล้ว ตามหลักการแพทย์จะพยายามกระตุ้นให้คนไข้กินอาหารให้เร็วที่สุด เพื่อให้เยื่อบุของลำไส้และระบบย่อยอาหารกลับฟื้นตัวขึ้นมาทำงานตามปกติเร็วที่สุด และสามารถดูดซึมสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผลผ่าตัดได้เร็ว
คุณหมอรพีพรเล่าถึง การฟื้นฟูด้วยอาหารในการผ่าตัดไส้ติ่งสองประเภท ว่า
- การผ่าตัดไส้ติ่งแบบปกติ มื้อแรกให้กินน้ำข้าวต้ม มื้อที่สองกินข้าวต้ม และมื้อที่สามกินอาหารตามปกติ
- การผ่าตัดไส้ติ่งแตก กระบวนการผ่าตัดจะทำให้ระบบทางเดินอาหารถูกรบกวน ลำไส้จะอักเสบบวมช้ำ และการทำงานหยุดชะงัก หลังผ่าตัดผู้ป่วยจึงต้องอดอาหารอย่างต่ำสองถึงสามวัน
เมื่อสามารถผายลมได้ ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าลำไส้สามารถเคลื่อนไหวกลับมาทำงานตามปกติได้แล้ว จึงเริ่มกินน้ำข้าวต้ม ข้าวต้ม ข้าวสวย เรียงกันไปแต่ละมื้อตามลำดับเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็กินอาหารตามปกติ
2. ดูแลแผลผ่าตัดให้หายเร็ว คุณหมอรพีพรเล่าว่า ตามปกติแผลผ่าตัดภายนอกจะหายภายในเจ็ดถึงสิบวัน การดูแลแผลผ่าตัดภายในลำไส้จะหายภายในห้าถึงเจ็ดวัน การดูแลแผลผ่าตัดภายนอกคือไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะแผลอาจติดเชื้อ นอกจากนี้คนไข้ควรพยายามเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยในช่วงแรกไม่ควรยกหรือแบกของหนัก
คุณหมอรพีพรแนะนำว่า ในผู้ป่วยรายที่มีอายุมาก และมีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือไตวาย การฟื้นตัวของแผลจะช้ากว่าปกติ จึงต้องดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษ