สังเกตร่างกาย ฝึกจิบน้ำเป็นประจำ
เมื่อคุณกระหายน้ำ นั่นแปลว่าร่างกายต้องการน้ำ อาจยังไม่ถึงขั้นขาดน้ำ ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนขั้นต้น ดอกเตอร์โจเซฟแนะว่า ทันทีที่รู้สึกกระหายขอให้จิบน้ำตามไปทีละน้อย
วิธีที่ง่ายที่สุด ให้ตั้งขวดน้ำไว้ใกล้ๆ ตัวและหมั่นยกขึ้นจิบทุกๆ 30 นาทีอย่างน้อย 1 แก้วหรือประมาณ 250 ซีซี ขอให้ฝึกสังเกตความรู้สึกกระหายและตอบสนองให้ทัน ก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ไปได้
ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งซึ่งคนทั่วไปยังไม่ทราบคือ วัยที่เพิ่มขึ้นมีส่วนทำให้การรับรู้ถึงอาการกระหายน้ำลดลง มีวิธีทดสอบง่ายๆ คือ ถ้าวันไหนคุณตั้งขวดน้ำทิ้งไว้ใกล้ตัวทั้งวันแล้วยังไม่รู้สึกกระหายน้ำเลย นั่นอาจมีผลจากวัยที่เพิ่มขึ้นก็เป็นได้ และส่วนใหญ่ปัญหานี้จะพบมากขึ้นในคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
อย่างไรก็ตามพึงตระหนักว่า คุณต้องจิบน้ำให้สม่ำเสมอ แม้บางครั้งอาจไม่ได้รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาอย่างชัดเจนก็ตาม เกณฑ์ที่แนะนำคือ จิบน้ำ 1 แก้วทุกๆ 30 นาที
นอกจากนี้หากครอบครัวของคุณมีผู้สูงอายุที่อยู่ในความดูแล ควรใส่ใจเตือนให้ท่านจิบน้ำให้ได้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำเช่นกัน
สังเกตปัสสาวะ ช่วยเตือนให้ดื่มน้ำได้
หากคุณไม่ได้กินวิตามินบี 2 แบบเม็ดเสริมอาหาร ซึ่งส่งผลให้ปัสสาวะมีสีเหลืองสดกว่าปกติ ขอให้ทราบว่า ปัสสาวะของผู้ที่มีสุขภาพดีต้องมีสีเหลืองอ่อน หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณดื่มน้ำน้อยเกินไป ขอให้เพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มขึ้นจนกว่าจะมีปัสสาวะสีเหลืองอ่อนตามปกติ
โดยทั่วไปคนเราจะปัสสาวะ 3 – 5 ครั้งในช่วงกลางวัน ส่วนในช่วงกลางคืน ถ้ามีอายุน้อย อาจจะไม่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะเลย แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุจะลุกมาปัสสาวะราว 1 – 2 ครั้ง
ในช่วงกลางวัน ถ้าผ่านไป 3 – 4 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่ปัสสาวะหรือปัสสาวะออกมาแล้วมีกลิ่นฉุนกว่าปกติ แสดงว่าคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป ให้เพิ่มปริมาณน้ำที่จิบระหว่างวันให้มากขึ้นจนกว่าปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองอ่อนและมีกลิ่นตามปกติ ไม่ฉุนจัด