น้ำในหูไม่เท่ากัน โรคที่ต้องรู้ + สาเหตุของโรค ไม่เป็นก็ต้องอ่าน
โรค น้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ โรคเมเนียร์ (Meniere’s Disease) มาจากชื่อของ นายแพทย์พรอสเพอร์ เมนียร์ (Prosper Méníére) แพทย์ชาวฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญโรคเกี่ยวกับหูซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ.1799-1862 นายแพทย์พรอสเพอร์ได้ศึกษาวิจัยโรคเกี่ยวกับหูเป็นระยะเวลานาน และเป็นคนแรกที่กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้คนเราเกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุน หูอื้อ ว่า คือ โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน และได้รายงานผลการศึกษาเรื่องนี้ไว้เมื่อปี ค.ศ. 1861 หรือว่า 155 ปีมาแล้ว
ในอดีตมีความเชื่อกันว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น เกิดขึ้นเองและหายเองได้ แต่ทว่าคำว่าหายได้เองนี้คือ การหายจากอาการเวียนหัวบ้านหมุน แต่สมรรถภาพทางการได้ยินที่ลดลงไปอาจไม่กลับคืนมาเป็นปกติ
ปัจจุบันผู้ป่วยและคนทั่วไปยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจผิดว่าโรคอื่นๆ เช่น โรคไมเกรน โรคทางสมอง โรคทางระบบประสาทต่างๆ ที่มีอาการเวียนหัว ก็เรียกว่าเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันไปเสียหมด ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
อาการของผู้ป่วยจึงทรุดลง หูอื้อมากขึ้น หรือเป็นทั้งสองหูจนสายเกินกว่าจะแก้ไขเยียวยา ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียสมรรถภาพการได้ยิน หรือบางรายอาจมีเนื้องอกประสาทการทรงตัวกดทับประสาทการได้ยิน และลุกลามไปสมองจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตจากการเข้าใจผิดนั้น