น้ำเอนไซม์จึงมีวิธีทำที่เน้นความสดและต้องการแค่น้ำอย่างเดียว ซึ่งมีด้วยกัน 2 วิธี คือ
วิธีดั้งเดิม
นำผักหรือผลไม้ที่ต้องการไปสับ คั้น หรือตำ (ด้วยครก) แล้วคั้นแยกน้ำออกจากกากด้วยผ้าขาวบางก็จะได้น้ำเอนไซม์แบบธรรมชาติราคาถูก
วิธีที่ 2
เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วกว่าวิธีแรก ด้วยการใช้ตัวช่วยอย่างเครื่องแยกกาก (Juicer) เครื่องนี้จะช่วยแยกกากออกจากน้ำเอนไซม์ ทำโดยการหั่นผักหรือผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในเครื่อง ก็จะได้น้ำเอนไซม์ออกมาอย่างง่ายดาย
หลังจากได้น้ำเอนไซม์มาแล้วก็ควรดื่มทันที เพราะเอนไซม์เก็บไว้ได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง และห้ามเติมเกลือหรือน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสเด็ดขาด เพราะเอนไซม์จะถูกทำลาย หรือแม้กระทั่งการนำน้ำเอนไซม์แต่ละชนิดมาผสมกันก็ไม่ได้ เพราะเอนไซม์ของพืชผักแต่ละชนิดอาจมีฤทธิ์ทำลายกันเอง
เมื่อดื่มน้ำเอนไซม์แล้ว ร่างกายจะดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ผ่านการย่อยที่กระเพาะอาหาร ร่างกายจึงสดชื่นทันตาเห็น
วิธีดื่มน้ำเอนไซม์ให้ได้คุณค่าครบควรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนชนิดของผักผลไม้ไปเรื่อยๆ ไม่ควรดื่มอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำกันเป็นเวลานาน
คั้นน้ำเอนไซม์ แบบมืออาชีพ
ผักและผลไม้อุดมด้วยประโยชน์ต่อร่างกายอย่างน่าอัศจรรย์ เราจึงไม่เพียงกินสดหรือใช้ปรุงอาหารเท่านั้น หากยังคั้นเป็น น้ำเอนไซม์ เพื่อดื่มบำรุงร่างกายสไตล์ชีวจิตได้อีกด้วยค่ะ
ผักและผลไม้มีเอนไซม์สดๆ มากมาย เมื่อคั้นเป็นน้ำดื่ม เอนไซม์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ซึ่งจะไปช่วยย่อยอาหารหรือทำความสะอาดส่วนต่างๆ ของระบบร่างกายได้
แต่เอนไซม์ในผักและผลไม้สลายตัวง่ายมาก หากถูกความร้อนจัดจากการปรุง ถูกกระแสไฟฟ้าหรือกระแสแม่เหล็กจากการปั่น ถูกเอนไซม์ในปากและน้ำลาย หรือเก็บไว้นานเกินครึ่งชั่วโมง ดังนั้น เมื่อคั้นแล้วจึงควรดื่มทันที เพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำเอนไซม์สูงสุด
