Step 1 อยากลดน้ำหนักต้องเพิ่มผัก
ตั้งแต่เด็กคุณติ๊ดไม่กินผักทุกชนิด เพราะไม่ชอบรสชาติและกลิ่น “เริ่มจากกินสลัด เพราะผักสลัดไม่ค่อยมีกลิ่น แรกๆ เราจะตักเนื้อสัตว์และข้าวโพดลงไปในสลัดให้มากๆเพื่อกลบกลิ่นและรสของผัก ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนก็เริ่มชินกับรสชาติของผัก ก็จะตักผักมากขึ้น นอกจากจะทําให้น้ําหนักตัวลดลงแล้ว สังเกตได้เลยว่า ระบบขับถ่ายดีขึ้น ผิวพรรณก็ดูสดใสขึ้นด้วย”
Step 2 น้ำหนักไม่ขึ้น หากเพิ่มอาหารต้ม นึ่ง
ของทอด เช่น ไข่เจียว ไก่ทอด หมูยอทอด คืออาหารหลักของคุณติ๊ดมาโดยตลอดเมื่อต้องลดของโปรดและเพิ่มอาหารประเภทต้ม นึ่ง เธอจึงมีเทคนิคดังนี้ “ช่วงลดน้ําหนักจะทําสุกี้กินเองที่บ้านเกือบทุกเย็น เราจะเลือกผักที่กินได้ ใส่ผักและเห็ดเยอะหน่อย ใส่วุ้นเส้นน้อยๆ ส่วนมื้ออื่นที่ไม่ได้ทํากินเองก็จะกินแกงจืด ทั้งสุกี้และแกงจืดเป็นอาหารประเภทต้มที่มีผักเยอะ บางมื้อก็มีปลานึ่งผักนึ่งบ้าง ซึ่งทําให้เราได้กินทั้งอาหารที่ไม่มีไขมันและมีผักไปพร้อมๆกัน”
Step 3 เพิ่มของไม่หวาน
ลดตัวการทําอ้วน คุณติ๊ดชอบกินขนมหวานมาก จนมีคติประจําที่ว่า “กินคาวต้องกินหวาน” ส่วนเครื่องดื่มโปรดก็คือน้ําหวาน “ช่วงลดน้ําหนักเรางดของหวานไปเลย ปรากฏว่ายิ่งงดยิ่งอยากกิน พอได้กินก็จะกินเยอะ เลยใช้วิธีค่อยๆ ลด จากน้ําหวานแก้วใหญ่ก็ลดเหลือแก้วเล็ก แล้วดื่มน้ําเปล่ามากขึ้น จากขนมหวานถุงใหญ่ก็เหลือถุงเล็ก กินผลไม้รสหวานน้อยๆ แทน”
คุณติ๊ดลดน้ําหนักด้วยวิธีดังกล่าวโดยใช้เวลา 6 เดือน และควบคุมน้ําหนักด้วยวิธีนี้มาได้ตลอด 5 ปี ใครว่าลดน้ําหนักต้องลดอาหารเสมอไป ลองเพิ่มอาหาร 3 ประเภทดังกล่าวดู รับรองว่าคุณเองก็เป็นเจ้าของหุ่นเพรียวได้
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ปั่นจักรยานเพื่อลดน้ำหนัก คนอยากผอมต้องลองดู
อดอาหาร ฉลาดดื่มน้ำ อาบแดด 3 เทคนิคช่วย ผอม
โปรแกรมออกกำลังกายลดน้ำหนัก ใน 6 สัปดาห์ (ตอนที่ 1)
