3. โยคะ
เป็นการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์แบบทูอินวันคือ ได้ทั้งความแข็งแรงของร่างกายและออกกำลังสมองไปพร้อมๆ กัน
ในนิตยสาร ฟอร์บส์ (Forbes) หน้าฟอร์บส์วูแมนอธิบายว่าโยคะช่วยเพิ่มสารสื่อประสาทที่เป็นประโยชน์ให้สมอง เช่น กาบา (Gaba) เซโรโทนิน (Serotonin) และโดพามีน (Dopamine) ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและรู้สึกสบายใจ
นอกจากนี้สารสื่อประสาททั้งสามชนิดยังช่วยลดความเครียดความกังวลด้วย
การฝึกโยคะยังช่วยให้จิตใจสงบ กลับสู่ภาวะสมดุล ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น ลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและกำจัดสารพิษได้ดีขึ้น
Tips เคล็ดลับฝึกโยคะบู๊สต์พลังสมอง
- ถ้ารู้สึกเครียดและอยากผ่อนคลาย ลองฝึกโยคะท่าง่ายๆ เช่น ยืนตรง แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นทางด้านข้างลำตัวช้าๆ จนแขนขนานกับพื้น พร้อมกับหายใจเข้าช้า ๆ ยืดตัวตรง จากนั้นลดมือลง หายใจออก นับเป็น 1 ครั้ง ทำทั้งหมด 5 ครั้ง ทำครั้งต่อไปอาจหายใจให้ลึกขึ้นและเพิ่มจำนวนครั้งเป็น 10 - 15 ครั้ง
- หาหนังสือโยคะมาอ่าน เพื่อฝึกท่าง่ายๆ ท่าอื่น ๆที่ทำได้สะดวกทั้งในออฟฟิศและที่บ้าน
- ชวนเพื่อนเข้าคอร์สโยคะ จะได้มีกำลังใจฝึกสม่ำเสมอ
4. ออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน
เวลาพูดถึงการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่เรามักนึกถึงการเจียดเวลาอันน้อยนิดไปวิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เล่นกีฬา ฯลฯ แล้วก็ล้มเหลว
การได้ออกกำลังกายจริงจังเป็นเรื่องดีมาก แต่ถ้าพยายามเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ลองมองกิจวัตรประจำวันหรือทำงานบ้านแทน
การออกแรงทำงานบ้านให้เหนื่อย แต่ไม่ถึงกับเหนื่อยหอบถือเป็นการออกแรงที่ใกล้เคียงกับการออกกำลังกาย แม้จะยังไม่ดีที่สุด แต่ดีกว่าไม่ได้ออกกำลังกายเลย
Tips กลยุทธ์หาเวลาออกกำลังระหว่างวัน
- มองการทำงานบ้านเป็นเรื่องสนุกและมีประโยชน์ขยันกวาดเช็ดถูบ้าน จัดบ้าน กำจัดข้าวของที่รกรุงรังออกล้างรถ ทำสวน ฯลฯ
- ทำงานบ้านให้ได้อย่างน้อยวันละประมาณ 30 นาทีอาจแบ่งเวลาทำเป็นสองหรือสามช่วง หรือทำคราวเดียวกันก็ได้
- ออกกำลังกายในระหว่างวัน เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินแทนการนั่งรถยนต์ จอดรถไกลประตูอาคารหรือฝึกกายบริหารหรือขี่จักรยานอยู่กับที่พร้อมกับดูโทรทัศน์ไปด้วย ฯลฯ
5. ออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อสมองที่แข็งแรง เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยดูตามความเหมาะสมของร่างกาย
การออกกำลังกายบางประเภทอาจเหมาะกับคนอื่น แต่ไม่เหมาะกับเรา เพราะสภาพร่างกายแต่ละคนแตกต่างกันต้องเข้าใจด้วยว่า การออกกำลังไม่ใช่การแข่งขันว่าใครจะเก่งกว่า แต่ทำเพื่อสุขภาพร่างกายและสมองที่ดี นี่แหละเป้าหมายของเรา
Tips How-to วิธีออกกำลังกายให้เหมาะกับสุขภาพ
- ถ้าไม่เคยออกกำลังกายเลย วันแรกๆ ให้เริ่มจากการออกแรงน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มไปจนถึงจุดที่เหมาะกับแรงของตัวเอง
- ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน และต้องมีวันพักด้วย
- ออกกำลังกายในปริมาณพอเหมาะ วันละประมาณ 30 นาที แบ่งเป็นช่วง ๆ ก็ได้ เริ่มต้นจากน้อยๆ จนไปถึงปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง ดูตามกำลังความสามารถของตัวเองเป็นหลัก