สมุนไพรใกล้ตัว จากตำราการ แพทย์แผนจีน

4. ข้าวเหนียว

ข้าวเหนียวมีฤทธิ์อุ่น รสหวาน นายแพทย์ภาสกิจอธิบายว่า ใช้บำรุงส่วนกลาง ได้แก่ กระเพาะ ม้าม และปอด ช่วยหยุดเหงื่อ และการขับถ่ายปัสสาวะที่เกิดจากภาวะพร่อง ใช้กับคนที่มีภาวะกระเพาะ อาหารและม้ามพร่อง มักมีอาการท้องเสีย เหงื่อออกง่าย

ตัวอย่างการใช้ข้าวเหนียวรักษาโรคที่น่าสนใจ คือ ในสมัยราชวงศ์ ชิงมีโจ๊กเทวดา ผู้เผยแพร่คืออูยี่เฟิงซึ่งเป็นแพทย์จีนที่มีชื่อในยุคนั้น โดยนำข้าวเหนียวมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักปรุงโจ๊กตำรับนี้ เริ่มจากนำ ข้าวเหนียวประมาณ 100 กรัม เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย ต้มด้วยไฟอ่อน ไปเรื่อย ๆ จนเดือด จากนั้นใส่ขิง 50 กรัม ประมาณ 5 – 10 แว่น หอมหัวใหญ่ 5 หัว ต้มไปเรื่อยๆ จนหัวหอมเปื่อยนิ่ม ถ้าน้ำแห้งให้หมั่น เติมน้ำ จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูจีน 1 ทัพพี ปิดไฟแล้วยกลง ปรุงรส ด้วยเกลือป่นเล็กน้อย

นายแพทย์ภาสกิจอธิบายว่า โจ๊กสูตรนี้มีสรรพคุณช่วยรักษาไข้หวัด เนื่องจากกระทบลมเย็น มีอาการกระเพาะอาหารเย็น คลื่นไส้ อาเจียน ข้าวเหนียวช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ม้าม ปอด ส่วนขิงและหอมหัวใหญ่ ช่วยกระจายลมเย็น โดยมีน้ำส้มสายชูจีนเป็นตัวขับกระจาย

ทั้งนี้กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงข้าวเหนียว ได้แก่ ผู้ที่มีฝีหนองอักเสบ มีอาการไอ มีเสมหะเหนียว เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีปัญหา กระเพาะอาหารพร่อง อาหารย่อยยาก

สูตรชาข้าวเหนียว สรรพคุณแก้ปัสสาวะบ่อยจากภาวะพร่อง

วิธีทำ

ใช้ข้าวเหนียวที่หุงสุกแล้ว 50 กรัม แช่ในน้ำร้อนจัด 1 แก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที นำมาดื่มขณะที่อุ่น วันละ 1 ครั้ง

สูตรซุปข้าวเหนียว – พุทรา สรรพคุณแก้อาการกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เป็นแผลเรื้อรัง

วิธีทำ

ใช้ข้าวเหนียว 50 กรัม พุทราจีน 7 ผล และน้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง ต้มโดยใช้ไฟอ่อน 15 – 20 นาที หรือจนกว่าพุทราจีน จะเปื่อยนิ่ม กินเป็นซุป วันละครั้ง

5. ถั่วเขียว

ตำราเหลียวเปิ่นเฉาระบุว่า ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น รสหวาน วิ่งเข้าเส้นลมปราณกระเพาะอาหารและหัวใจทั้ง 12 เส้น บำรุงปราณดั้งเดิมหรือหยวนซี่ มีสรรพคุณช่วยปรับอวัยวะ ภายใน กระจายลมที่ผิวหนังทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น ขับร้อน แก้กระหาย ขับหนอง ขับปัสสาวะ บรรเทาอาการอักเสบ ลดบวม ลดไข้ ขับสารพิษได้

นายแพทย์ภาสกิจชี้แจงเพิ่มเติมว่า ถั่วเขียวเป็นอาหาร ที่เหมาะกับฤดูร้อน เพราะทำให้ร่างกายเย็นลง ช่วยลด ความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ป้องกันหลอดเลือด แข็งตัวได้

การศึกษาในปัจจุบันพบว่า ถั่วเขียวมีวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี กรดโฟลิก โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ให้พลังงานต่ำ แต่มีใยอาหารสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อีกทั้งช่วยควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือด สูงหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ถั่วเขียวยังมีไฟโตเอสโทรเจน จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยทอง ใช้กินเพื่อบรรเทา อาการไม่ พึ งประสงค์ เช่น ร้อนวูบวาบ หงุดหงิด เหงื่อออก อารมณ์แปรปรวน ซึ่งเกิดจากภาวะฮอร์โมนเพศหญิงลดลง

สูตรข้าวต้มถั่วเขียว สรรพคุณลดอาการอักเสบ ลดบวม ขับพิษและความร้อน

วิธีทำ

นำถั่วเขียว 1-2 ถ้วยตวง มาแช่น้ำ 3 ถ้วยตวง ทิ้ง ไว้ค้างคืน วันรุ่งขึ้นนำถั่วเขียวที่แช่ไว้มาเทน้ำออก เติม ข้าวกล้องลงไป 1-2 ถ้วยตวง เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง ต้มด้วย ไฟอ่อน กินเป็นข้าวต้มกับกับข้าวอื่น ๆ ให้ครบ 3 มื้อ

สูตรชาถั่วเขียว สรรพคุณลดไขมันในเลือด แก้ไอ บรรเทาอาการเจ็บคอ ลดไข้

วิธีทำ

นำถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ มาตำให้ละเอียด ใส่ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลกรวดเล็กน้อย เติมน้ำร้อน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ปิดฝาพักไว้ 5 – 10 นาที จากนั้นกรอง เอาแต่น้ำ ใช้จิบแทนน้ำชา

<< อ่านต่อหน้าที่ 4 >>

Pages: 1 2 3 4 5