มะเร็ง รักษามะเร็ง

วิธีการรักษา มะเร็ง …ที่คุณต้องรู้

ยาเคมีบำบัด   

นายแพทย์ธีรภัทร อึ้งตระกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า

“ยาเคมีบำบัดคือยาที่ใช้เพื่อทำลายหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีจุดประสงค์เพื่อรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคมะเร็งและไม่กลับมาเป็นซ้ำ ควบคุมให้ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กลงและไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น”

ข้อมูลจาก วารสารสมาคมอเมริกัน เพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง ได้สรุปการพัฒนายาเคมีบำบัดเพื่อใช้รักษาโรคมะเร็งไว้ดังนี้

การใช้ยาเคมีบำบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็งในช่วงเริ่มต้นนั้น มีความพยายามค้นหาสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคมะเร็งในหนูทดลอง ซึ่งมุ่งสู่เป้าหมาย 2 ข้อด้วยกัน คือ การพัฒนายาต้นเเบบเพื่อใช้รักษาโรคมะเร็งให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และการพัฒนายาในระดับคลินิกเพื่อใช้ทดสอบยารักษา

 

5 วิธีรักษาโรคมะเร็ง

เนื่องจากยาเคมีบำบัดออกฤทธิ์ต่อเซลล์ที่มีการแบ่งตัว ทำให้ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเซลล์ปกติที่กำลังแบ่งตัว เช่น เซลล์รากผม เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร กับเซลล์มะเร็งที่มีการแบ่งตัวได้ ทำให้เกิดผลข้างเคียง

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่า การพัฒนายาเคมีบำบัดในปัจจุบันนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เซลล์มะเร็งตอบสนองต่อการรักษามากขึ้น รวมถึงช่วยให้ผลของการรักษาที่จำกัดเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยมีผลต่อเซลล์ปกติอื่น ๆ น้อยที่สุดเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้

1. การรักษาแบบมุ่งเป้า

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่า การรักษาแบบมุ่งเป้า (Target Therapy) เป็นการรักษาโรคมะเร็งที่ต้องการให้ยาออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง โดยให้ยา หรือสารไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง

ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีตัวรับหรือเป้าหมาย (Target) ที่ตอบสนองต่อยา โดยก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์จะต้องทำการตรวจผู้ป่วยก่อนว่ามียีนหรือตัวรับที่สามารถใช้รักษาได้หรือไม่

ยาเคมีบำบัด รักษามะเร็ง
ยาเคมีบำบัดในการรักษามะเร็งได้มีการพัฒนาให้มีผลต่อเซลล์ปกติอื่นๆ น้อยที่สุด

2. ภูมิคุ้มกันบำบัด

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่า ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เนื่องจากโรคมะเร็งทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายไม่สามารถตอบรับการรักษาด้วยยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การให้ยาเพิ่มภูมิคุ้มกันจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวกลับมาทำงานเป็นปกติ สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้

ซึ่งมีการนำไปใช้รักษากันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศไทยอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 - 5 ปี เพื่อดำเนินการขอการรับรองจากองค์การอาหารและยา

3. ฮอร์โมนบำบัด

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่าฮอร์โมนบำบัด (Hormone Therapy) คือการรักษาโรคมะเร็งด้วยการให้ยาฮอร์โมนเข้าไปยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งเต้านมโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

4. วัคซีนรักษาโรคมะเร็ง

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่าวัคซีนรักษาโรคมะเร็ง (Cancer Vaccine) นั้นมีความเเตกต่างจากวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคไวรัสตับอักเสบ ซึ่งวัคซีนรักษาโรคมะเร็งนี้ผลิตขึ้นจากเซลล์มะเร็ง หรือชิ้นส่วนของเซลล์มะเร็ง หรือแอนติเจนของเซลล์มะเร็ง เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ของภูมิคุ้มกันในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง และมีแอนติบอดีที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

ปัจจุบันวัคซีนที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาคือวัคซีนรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

5. การรักษาแบบใช้ยาเฉพาะบุคคล

คุณหมอธีรภัทรอธิบายว่า หลังจากโลกคิดค้นวิธีการถอดจีโนมระดับดีเอ็นเอเฉพาะรายได้สำเร็จ ซึ่งนำไปสู่การรักษาแบบใช้ยาเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ที่เหมาะสมกับยีนของแต่ละคน ทำให้การรักษามีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาและการแพ้ยาได้

 

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 5 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.