การฉายแสง
สำหรับการฉายแสงเพื่อรักษาโรคมะเร็งนั้น คุณหมอเอื้อมแขอธิบายว่า
“การรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงถือเป็นยุคของการใช้รังสีรักษาแบบเฉพาะจุดมาก ต่างจากสมัยก่อนที่ถ้าเรารักษาด้วยรังสีแบบทูไดเมนชั่น คือการยิงรังสีจากด้านหน้าและด้านหลังของก้อนมะเร็ง ซึ่งทำให้เราพุ่งเป้าไปเฉพาะตัวก้อนได้ค่อนข้างยาก
“ถ้ามะเร็งกระจายขึ้นไปที่ศีรษะ เราอาจจะต้องฉายรังสีทั้งศีรษะ เพราะเราไม่สามารถเลือกฉายเฉพาะจุดได้ แต่ปัจจุบันนี้มีเทคนิคโฟร์ไดเมนชั่น จึงสามารถโฟกัสไปเฉพาะที่ก้อนมะเร็งได้ ทำให้มีผลข้างเคียงน้อยมาก เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพจึงดีกว่ามาก โรคบางโรคไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่ใช้รังสีรักษาแทนการผ่าตัดได้เลย ถ้ามะเร็งมีขนาดไม่ใหญ่มาก”
คุณหมอเอื้อมแขยกตัวอย่างกรณีผู้ป่วยมะเร็งที่สามารถใช้วิธีรักษาด้วยการฉายรังสีว่า
“มะเร็งสมองบางจุดไม่สามารถผ่าตัดออกได้ เพราะจะทำให้คนไข้มีอาการแขนขาอ่อนแรงหรือส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทเสียไป ดังนั้นการฉายรังสีเฉพาะจุดจึงมีประโยชน์ต่อคนไข้มาก
“ส่วนมะเร็งปอด ถ้าเป็นระยะเริ่มต้น สมัยก่อนคุณหมอจะให้ผ่าตัดออก เพราะเป็นวิธีเดียวที่ช่วยให้หายขาด แต่คนไข้บางคนทนการผ่าตัดไม่ได้ ปัจจุบันเราสามารถใช้วิธีการฉายรังสีเฉพาะจุดรักษาแทนการผ่าตัดได้แล้ว”
นอกจากนี้คุณหมอเอื้อมแขได้อธิบายว่า ยังมีโรคมะเร็งกล่อง-เสียงที่สามารถเข้ารับการฉายรังสีรักษาแทนการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้คนไข้ไม่ต้องถูกตัดกล่องเสียง จึงมีโอกาสพูดและมีโอกาสหายขาดได้
SIDE EFFECT
- ถ้าฉายบริเวณศีรษะและลำคออาจทำให้เกิดแผลในปากได้ จึงควรเตรียมตัวด้วยการทำฟันก่อนเพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อในช่องปากและลำคอ
- ถ้าฉายที่ศีรษะ อาจทำให้มีอาการปวดหัว
- ถ้าฉายที่ท้อง อาจทำให้กินข้าวได้น้อยลง หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
