อาหารเจ เทศกาลกินเจ กินเจ

กูเต้นหรือกลูเตนที่อยู่ใน อาหารเจ ระวังทำป่วย by กูรูต้นตำรับชีวจิต

ยิ่งอาหารเจขายดีเพียงไร การฉวยโอกาสหากินก็ยิ่งมีมากขึ้นเพียงนั้น พ่อค้าแม่ค้าหัวใสบางคนประกาศสินค้าทุกอย่างเป็นเจร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้แต่ผลไม้ธรรมดาอย่างเช่นส้มโอก็มีคนปักธงอาหารเจลงไปด้วย อ้างว่าเพาะปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี จึงเป็นอาหารเจ ไม่ทราบว่าไปเอาหลักเอาเกณฑ์มาจากไหน

บางคนร้ายไปกว่านั้น ใส่ผงชูรสเข้าไปอีกตะพึด-ตะพือ อ้างว่าผงชูรสก็เป็นอาหารเจอีกเหมือนกัน รู้อยู่แล้วว่าผงชูรสมีโทษทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ แต่ก็ยังใส่ลง แถมอ้างว่าเป็นอาหารเจบริสุทธิ์ด้วย จะทำอย่างไร หลอกลวงอย่างไรไม่มีใครสนใจ เพราะคนกินเชื่อกันอยู่แล้ว กินแล้วจะได้บุญได้กุศล

ถึงฤดูกินเจจะมีคนป่วยกันหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบกินอาหารเจประเภทเนื้อสัตว์เทียม เป็ดเทียม ไก่เทียม หมูเทียมทั้งหลาย เพราะกินแล้วรสชาติอร่อยมากจริงๆ

โดยเฉพาะเด็กบางคนที่พ่อแม่พาไปเข้าฤดูถือศีลกินเจกับเขาด้วย เด็กเหล่านี้มักจะไม่รู้จักภัยของกลูเตน โดยเฉพาะเมื่อพ่อแม่เห็นว่ากินอาหารเจได้บุญได้กุศล จึงปล่อยปละละเลยให้เด็กๆ กินได้เต็มที่

เด็กได้กินเป็ด ไก่ หมู (เทียม) เต็มที่ ยิ่งกินยิ่งอร่อย ก็เลยกินแต่กลูเตนเหล่านี้ ผักผลไม้ไม่ได้แตะเลย ยังไม่ทันหมดเทศกาลกินเจ เด็กก็ป่วยเป็นแถวๆ

การป่วยของเด็กๆ จากการกินกลูเตนแต่เล็กๆ นี้ ปรากฏอยู่ในตำราการเจ็บป่วยของแพทย์ เรียกเป็นชื่อการแพทย์ว่า Coeliac Disease โดยเฉพาะเด็กฝรั่งซึ่งกินกลูเตนผลิตจากข้าวสาลีและข้าวไรย์ และเด็กจีนซึ่งกินกลูเตนจากข้าวสาลีในการกินอาหารเจ

อาการของเด็กๆ จาก Coeliac Disease นี้คือ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อุจจาระเหลวและมีกลิ่นเหม็นรุนแรงมาก ท้องบวม (พุงโร) ปากเป็นแผล โลหิตจาง รูปร่างผอม ขาโก่ง

ชื่ออีกชื่อหนึ่งของโรคชนิดนี้เป็นชื่อค่อนข้างจะตรงตัวคือ Gluten Enteropathy การตรวจโรคของเด็กฝรั่งซึ่งเป็นโรคนี้ค่อนข้างจะรุนแรงคือ ต้องส่องกล้องและขริบเนื้อบริเวณลำไส้เล็ก (Jejunum) ออกมาดู เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้แน่นอนแล้ว วิธีแก้วิธีเดียวคือ ให้งดกินกลูเตนตลอดชีวิต หรือบางคนกลายเป็นคนแพ้ข้าวสาลี กินข้าวสาลีไม่ได้เลยก็มีเหมือนกัน

สำหรับผู้ใหญ่บางคนที่กินพวกหมี่กึงหรือกลูเตนมากเกินไป อาการแพ้อาจจะไม่หนักหนานัก อย่างมากก็ท้องอืด อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลด (บางคนดีใจมาก นึกว่าเป็นการลดความอ้วนแบบศักดิ์สิทธิ์ดีแท้ หารู้ไม่ว่าไม่ช้าจะถึงกับป่วยสาหัส) โลหิตจาง เหนื่อยเพลีย ปวดหัว เวียนหัวเป็นประจำ

การแก้ก็เช่นกัน ต้องเลิกกินกลูเตน แล้วเพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ ประเภทเหล็ก บี 12 และโฟลิกแอซิด พร้อมทั้งให้กินแคลเซียม บีคอมเพล็กซ์ เป็นประจำสักพักหนึ่งด้วย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของดี ของแพง ของอร่อย ไม่ใช่ของดีเสมอไป อาจจะเป็นยาพิษที่เคลือบน้ำตาลแสนอร่อยมาก็ได้

 

ฝากให้ดูลิ้นรับรสซึ่งเป็นตัวการหลอกให้เรากินยาพิษดีนัก ลองดูภาพต่อมรับรส จะเห็นว่าทำไมเราชอบกินหวานกินเค็ม เพราะต่อมรับรสหวานและเค็มอยู่ปลายลิ้นพอดี

ต่อมรับรส

 

 

กินอาหารเข้าไปคำหนึ่ง จะโดนต่อมหวานต่อมเค็มขโมยไปก่อน เสร็จแล้วเปรี้ยวจึงจะตามมา และตัวสุดท้ายคือขม กว่าจะถึงโคนลิ้น เจ้าหวาน เค็ม เปรี้ยวขโมยไปหมดแล้ว เหลือเป็นกากชิ้นสุดท้าย โดนโคนลิ้นจึงขมจนหน้าเหยเก

ลองเอาต้นฟ้าทลายโจรยอดสดเคี้ยวเข้าไปสักยอด ตอนมันอยู่ปลายลิ้นไม่ขมเลย ถึงโคนลิ้นเมื่อไรขมเป็นดับเบิลขมสิ้นดี

แม้แต่ลิ้นของเรามันก็ยังไม่ซื่อสัตย์ต่อร่างกาย ของดีๆ มีประโยชน์ลิ้นไม่ค่อยยกย่อง แต่ของอร่อยๆ หวานๆ เค็มๆ มันหลอกเราดีนัก ชอบแต่ของอร่อย แต่ไม่ชอบของดี

 

จาก คอลัมน์บทความอาจารย์สาทิส นิตยสารชีวจิต ฉบับ 213


บทความน่าสนใจอื่นๆ

ประวัติเทศกาลกินเจ ความศรัทธาที่ถ่ายทอดผ่านทางวัฒนธรรมการกิน

กินเจให้สุขภาพเลิศ by อาจารย์สง่า ดามาพงษ์

กินเจกินเห็ด ลดอ้วน หมดห่วงเรื่องแป้ง

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.