เดินจงกรม

Amazing พิชิต 7 โรคร้ายด้วย เดินจงกรม

ทางลัดฟื้นฟูกายและใจ จากภาวะพีทีเอสดี

ประโยชน์ประการสุดท้ายที่น่าสนใจมากในการเดินจงกรม คือ เป็นโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพทั้งกายและใจที่ให้ผลดีกับผู้ที่มีภาวะเครียดภายหลังประสบภัย (Posttraumatic Stress Disorder หรือ PTSD – พีทีเอสดี) มักเป็นหลังพบสถานการณ์สะเทือนใจ พบว่าร้อยละ 15 - 40 ของผู้ประสบภัยตกอยู่ในภาวะนี้ ซึ่งต่างจากภาวะเครียดฉับพลัน (Acute Stress Reaction) ซึ่งมักสิ้นสุดลงภายใน 1 เดือนหลังประสบเหตุ

ตัวอย่างอาการจากภาวะพีทีเอสดีเริ่มจากผู้ป่วยจะเงียบเฉย ขาดการตอบสนอง สับสนไม่แจ่มใสร่าเริงเหมือนเดิม ต่อมาจะกังวลแม้แต่เรื่องเล็กน้อย ตกใจง่ายจากเสียงดัง ขาดสมาธิคิดวนเวียนเรื่องที่วิตกกังวลซ้ำๆ คิดถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ จนพัฒนาเป็นรู้สึกตกใจขึ้นมาเหมือนตัวเองยังอยู่ในเหตุการณ์นั้น หากมีสิ่งเร้าเพียงเล็กน้อย เช่น ได้ยินเสียงคลื่น เสียงน้ำ เสียงคนร้องตะโกนดังๆ ก็จะรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์อีก (Flashback) และตกใจกลัวอย่างรุนแรง เกิดอาการทางร่างกาย เช่น ใจสั่น มือสั่น เหงื่อออกมาก จนมีปัญหาไม่สามารถเรียนหรือทำงานตามปกติได้

เดินจงกรม ฟื้นฟูกายและใจ
เดินจงกรม ช่วยฟื้นฟูกายและใจ ให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเครียดภายหลังพบสถานการณ์สะเทือนใจ

ดร. นายแพทย์แรนดัลล์ แอล. แบรดดอม (Dr. Randall L. Braddom, MD) จิตแพทย์ประจำศูนย์การแพทย์ Malcom Randall Veterans Affairs Medical Center สังกัดกระทรวงทหารผ่านศึก ประเทศสหรัฐอเมริกา อธิบายว่าการเสริมกิจกรรมเดินจงกรมให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ช่วยสร้างความสงบในใจได้ต่อเนื่อง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการกินยาและการทำกิจกรรมบำบัดอื่น ๆ ได้ ควรเลือกเดินในสถานที่สงบ ร่มรื่น เช่น สวนสาธารณะ เพราะจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายลดความอ่อนล้าทั้งทางกล้ามเนื้อและจิตใจได้ดี

นายแพทย์แรนดัลล์ระบุว่า วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยภาวะพีทีเอสดีซึ่งประสบความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง เช่น ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรง ผู้ประสบภัยธรรมชาติ และเจ้าหน้าที่รัฐอย่างทหาร ตำรวจ ที่ผ่านภารกิจหนักนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้บุคคลเหล่านั้นสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น

 

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 6 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.