นวดปรับสมดุลร่างกาย
“การนวดทำให้เกิดผลดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกายคล้ายกับการออกกำลังกาย เพียงแต่การนวดไม่เน้นที่การหดตัวของกล้ามเนื้อเหมือนการออกกำลัง แต่เน้นที่การผ่อนคลาย
“เมื่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อผ่อนคลาย ระบบประสาทจะผ่อนคลายตาม ระบบย่อยอาหารจะพักผ่อน ระบบหายใจดีขึ้น เมื่อทุกระบบทำงานได้อย่างสบาย ร่างกายก็เบาและเป็นสุข”
ใจความตอนหนึ่งจากหนังสือเรื่อง อยู่ให้เป็น สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ เขียนไว้อย่างนี้
ใครมีอาการปวดศีรษะจึงสามารถใช้วิธีการนวดตามส่วนต่างๆ เพื่อให้ร่างกายเบาสบายขึ้นได้ ดังนี้ค่ะ
นวดต้นคอ – บ่า – ไหล่
อาจารย์สาทิส เคยอธิบายไว้ว่า
“คนที่ปวดศีรษะเป็นกิจวัตร หากลองใช้นิ้วมือกดบริเวณต้นคอ บ่า และไหล่ ก็มักจะสัมผัสได้ถึงความตึงและแข็ง ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อเครียด”
อาจารย์สาทิสจึงแนะนำว่า เมื่อรู้สึกปวดศีรษะ ควรนวดบริเวณต้นคอ – บ่า – ไหล่เบา ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึงตัวได้ผ่อนคลาย และทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดศีรษะได้ค่ะ
Easy Reflexology
อาจารย์ไกรสิงห์ รุ่งโรจน์สกุลพร ประธานมูลนิธิพัฒนาศาสตร์การนวดกดจุดสะท้อนเท้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า กระบวนการสะท้อนกลับของเท้า หรือ Foot Reflexology มีแนวคิดว่า เท้าของคนเรามีตำแหน่งการตอบสนองต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับทุกส่วนของร่างกาย การนวดกดจุดที่เท้าจึงเป็นการช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
สำหรับจุดที่เชื่อมโยงกับศีรษะและสมองนั้น อยู่ที่นิ้วหัวแม่มือการนวดบริเวณนี้ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและคลายความตึงเครียดได้ โดยมีวิธีนวดดังนี้
- ใช้นิ้วมือบีบนวดที่หัวแม่เท้าทั้งสองข้างไปเรื่อยๆ จนหัวแม่เท้าหายแข็ง
- หมุนหัวแม่เท้าเบาๆ เป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ ขณะนวดอาจทาน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปปเปอร์มินต์ที่ฝ่าเท้าด้วย จะช่วยบำบัดความเครียดได้เป็นสองเท่าค่ะ
ผ่อนคลายความเครียด
ข้อสุดท้าย แต่เป็นข้อที่สำคัญที่สุด และตัวผู้เขียนเองเห็นคนทำงานหลายท่านปวดศีรษะเพราะสาเหตุนี้กันมาก นั่นคือความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่กระตุ้นอาการปวดศีรษะตามคำกล่าวของคุณหมอสุพจน์
นอกจากนี้ หนังสือเรื่อง เสริมภูมิคุ้มกันต้านทานโรค กล่าวถึงเรื่องความเครียดไว้ว่า “ความเครียดอย่างต่อเนื่องส่งผลร้ายต่อร่างกาย การวิจัยร่างกายทุกส่วนแสดงให้เห็นวิธีที่ฮอร์โมนความเครียดทำลายระบบหลอดเลือด ระบบหัวใจ ระบบการย่อยอาหาร และระบบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากระบบภูมิคุ้มกัน (ระบบประสาทซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาการปวดศีรษะก็เป็นหนึ่งในนั้น)
“มีหลักฐานบ่งชี้ว่า การหลั่งฮอร์โมนความเครียดในระดับสูงอย่างต่อเนื่องอาจทำลายสมอง ทำให้ความจำเสื่อม เกิดความวิตกกังวล และยังส่งผลโดยตรงกับอวัยวะต่างๆ” เมื่อไรที่รู้สึกเครียดจึงควรรีบหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดศีรษะ แต่หากนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ลองใช้เทคนิคต่อไปนี้ค่ะ
- พักจากงานทุก 1 ชั่วโมง ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะคือ การใช้สมองและสายตามาก เมื่อทำงานครบหนึ่งชั่วโมงจึงควรพักประมาณ 10 นาที เพื่อหยุดการใช้สมองและลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ ก่อนจะกลับไปนั่งทำงานใหม่
- นั่งสมาธิ เพียงหามุมสงบภายในบ้าน จากนั้นให้นั่งหลับตา หายใจเข้า – ออกช้าๆ สักวันละ 5 นาที โดยขณะนั่งสมาธิให้เพ่งความสนใจไปยังลมหายใจ และเมื่อไรที่มีความคิดต่างๆ ลอยเข้ามา รีบสั่งตัวเองให้ “หยุดคิด” เพื่อปล่อยให้สมองว่างเปล่าจากสิ่งรบกวนใดๆ ค่ะ
- ฟังเพลงเบาๆ ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซะกะ ประเทศญี่ปุ่น ทำการทดลองโดยใช้วิธีตรวจคนไข้และฟังเพลงไปด้วย พบว่า คนไข้ที่ได้ฟังเพลงมีระดับความเครียดน้อยกว่า คนไข้ที่ไม่ได้ฟังถึง 66 เปอร์เซ็นต์ใครที่รู้ตัวว่าเครียดง่าย ก็อย่ามัวแต่นั่งเครียดให้ปวดหัวเล่น ๆ อยู่ค่ะ ลองหาเพลงโปรดมานั่งฟังสักพัก อาจช่วยให้ดีขึ้นได้
- หาเวลาท่องเที่ยว อีกวิธีง่าย ๆ และไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ มากมาย คือการไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะไปดูหนัง ชมธรรมชาติ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ตามใจชอบ ล้วนเป็นการผ่อนคลายตัวเองทั้งนั้นค่ะ
หากทำได้ครบถ้วน รับรองว่าอาการปวดศีรษะหายสนิทค่ะ
จาก คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 353
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ปวดหัว แบบนี้มักจะเป็น… By กูรูต้นตำรับรับชีวจิต
บรรเทาปวดหัว จากความเครียดได้ด้วยตัวเอง