โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร,โรคมะเร็ง,มะเร็ง

เรื่องเล่าจากหมอ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม (2)

บทเรียนจาก โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (ตอนจบ)

มาถึงตอนจบแล้ว กับเรื่องเล่าของผู้ป่วย โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ที่เรียบเรียงและแบ่งปันจากแพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข มาดูกันว่าสำหรับบทสรุปของเรื่องราวนี้จะเป็นเช่นไร

ประสบการณ์มะเร็ง จากหัวหน้าครอบครัว

คุณชา (นามสมมติ) เป็นผู้ชายหน้าตาดีและนิสัยดี โอบอ้อมอารี ยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อนบ้านชื่นชอบ เจ้านายก็ชื่นชม ทำงานได้สองขั้นทุกปี แถมยังรักลูกรักเมียไม่มีใครเทียม

คุณชาเป็นแฟมิลี่แมน มีลูกชาย 2 คน อายุ11 และ 14 ปี เขาสร้างฐานะด้วยงานสุจริตกว่าจะเก็บหอมรอมริบรวบรวมเงินได้สักก้อน เพื่อสร้างบ้านเล็กๆสักหลังบนที่ดินที่พ่อตาแม่ยายยกให้ ก็ตอนอายุ44 ปี

เพื่อประหยัดเงินสร้างบ้าน เขาจ้างช่างก่อสร้างในท้องถิ่น แต่ออกแบบบ้านเอง หาซื้อวัสดุเอง ช่วยช่างสร้างบ้านจนเหน็ดเหนื่อยมาก บางมื้อที่ไม่ได้กินข้าวจะรู้สึกอึดอัดท้องบริเวณลิ้นปี

ใครๆต่างบอกว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ภรรยาพาคุณชาไปพบแพทย์ได้ยารักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบมากินบรรเทาอาการ บางทีเขาซื้อยาธาตุน้ำขาวที่มีสรรพคุณเคลือบกระเพาะอาหารมากินเองบางครั้งก็รู้สึกเบื่ออาหาร เป็นอย่างนี้อยู่ 3 เดือน

แม้น้ำหนักจะเริ่มลด แต่ก็ยังดูไม่ออกเพราะคุณชาเป็นคนแข็งแรงล่ำสัน ด้วยเคยเป็นนักกีฬามาก่อน ช่วงที่ไม่ได้สร้างบ้าน เขาวิ่งออกกำลังกายวันละเป็นสิบกิโลเมตรมีกล้ามเป็นมัดๆ

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

ตอนเย็นวันหนึ่ง เขารู้สึกปวดท้องมากจนทนไม่ไหว ภรรยาจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด แพทย์ฉีดยาแก้ปวดให้รับตัวเข้ารักษา แล้วแนะนำให้ส่องกล้องตรวจดูกระเพาะอาหาร

ผลการตรวจพบว่า เขาโชคร้ายมาก เนื่องจากเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดลุกลามทั่วกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารแข็งเหมือนพลาสติก ทางการแพทย์เรียกว่า  ไลไนติสพลาสติก้า (Linitis plastica)

โรคมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดไลไนติสพลาสติก้าพบได้น้อยมาก มักลุกลามกินชั้นกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กระเพาะอาหารที่อ่อนนุ่มและขยายตัวยืดหดได้ขณะย่อยอาหาร กลายเป็นถุงหนาและแข็ง จึงเรียกอีกชื่อว่า กระเพาะอาหารถุงหนัง (Leather-bottle stomach)

เซลล์มะเร็งยังเจริญเติบโตรวดเร็ว เมื่อพบมักลุกลามจากกระเพาะอาหารไปยังเยื่อบุช่องท้องและต่อมน้ำเหลืองแล้ว จึงรักษายาก ไม่สามารถผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกได้หมด ทั้งไม่ค่อยตอบสนองต่อการฉายแสงบำบัดและเคมีบำบัด

คุณผู้อ่านคงสงสัยว่า โรคมะเร็งกระเพาะอาหารเกิดขึ้นได้อย่างไร

จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบหลักฐานยืนยันแน่นอนว่ามีปัจจัยเสี่ยงใดบ้าง แต่เชื่อว่าเกิดจากการกินอาหารหมักดอง รมควัน และปิ้งย่าง การติดเชื้อแบคทีเรียเอช.  ไพลอไร (H.pylori) การอักเสบเรื้อรังหรือมีแผลในกระเพาะอาหาร พันธุกรรมความอ่อนแอทางร่างกายและจิตใจ ฯลฯ ยิ่งโรคมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดไลไนติสพลาสติก้ายิ่งแทบไม่ทราบปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากพบน้อย

หลังตรวจพบมะเร็งร้าย

กลับไปที่คุณชา แม้ผลตรวจพบว่าเป็นมะเร็งแต่ภรรยาก็รู้ใจสามีดี หากบอกว่าเป็นมะเร็งชีวิตของสามีที่กำลังรุ่งเรือง ความห่วงกังวลเรื่อง
สร้างบ้านและความห่วงภรรยากับลูกคงทำให้เขายิ่งทรุดหนัก เธอจึงบอกเพียงว่า แพทย์พบแผลในกระเพาะอาหาร อาจต้องผ่าตัดรักษา

ภรรยาพาคุณชาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หลังจากตรวจร่างกายตรวจเลือด และตรวจเอกซเรย์เพิ่มเติมแล้วจึงนัดผ่าตัด

แต่เมื่อถึงวันผ่าตัด แพทย์อธิบายให้ภรรยาทราบว่า การผ่าตัดอาจช่วยได้ไม่มาก เพราะมะเร็งกระจายไปทั่วช่องท้องแล้ว รักษาลำบาก อาจผ่าตัดออกไม่หมด ทำให้คนไข้ทุกข์ทรมานจากการผ่าตัดโดยที่อาการไม่ดีขึ้น จะเปลี่ยนมารักษาด้วยเคมีบำบัดแทน

ภรรยาไม่ได้เล่าเรื่องที่แพทย์บอกให้คุณชาฟังบอกสามีแค่ว่า แพทย์จะให้ยารักษาแผลในกระเพาะอาหาร คุณชาเป็นคนมองโลกในแง่ดี จึงไม่รู้สึกว่าตนเองอาการหนัก เขาคิดว่าไม่นานก็คงหาย แม้กินอาหารไม่ได้ก็พยายามกิน ยังหัวเราะได้ ไม่ทุกข์โศก ยังไปทำงาน ควบคุมดูแลการสร้างบ้านหลังใหม่ของเขาเหมือนตอนไม่ป่วย ว่างก็ขับรถไปรับไปส่งลูกชายทั้งสองคนที่โรงเรียน

ครบกำหนดให้เคมีบำบัด ภรรยาขับรถพาเขาเข้ากรุงเทพฯ หลังให้เคมีบำบัด เขาต้องลาป่วยเพราะกินอะไรไม่ได้เลยอยู่ 3-4 วัน แล้วจึงกลับไปทำงานได้

อย่างไรก็ตาม อาการของคุณชาทรุดลงเรื่อยๆ กินข้าวได้น้อยลง น้ำหนักลดลง 20 กิโลกรัม จากชายที่ดูสง่างามกลายเป็นคนซูบผอม แก่ลงไปทันตาแม้แต่เดินยังเหนื่อย

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
กินอาหารหมักดอง รมควัน และปิ้งย่าง อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

การรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

แพทย์เปลี่ยนสูตรเคมีบำบัดหลายครั้ง แต่สุดท้ายลงความเห็นว่า “ไม่ว่าอย่างไร โรคมะเร็งที่เป็นอยู่ก็ไม่ตอบสนองต่อเคมีบำบัดและลุกลามไปเรื่อยๆ การให้เคมีบำบัดมีแต่สร้างความทรมานผมคงจะหยุดให้ยา”

“หมอไม่รักษาสามีฉันแล้ว  เขาหมดหวังแล้ว” ภรรยาของคุณชาร้องก้องอยู่ข้างใน น้ำตาไหลรินท่วมหัวใจ แต่ภายนอกปลอบสามีว่า  “คุณชาแรงน้อย  งวดนี้อาจต้องหยุดให้เคมีบำบัดก่อนรอร่างกายแข็งแรงกว่านี้ค่อยกลับมารักษาต่อ”

ภรรยาพาเขามานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด มะเร็งกระจายทั่วท้องไปที่ปอดและตับ ทำให้มีอาการท้องมาน น้ำท่วมปอด คุณชาทุกข์ทรมาน หายใจไม่สะดวก แน่นอึดอัด ต้องเจาะระบายน้ำออกจากปอดและท้องเป็นระยะๆ

เขาเริ่มหลับมากกว่าตื่น ยามตื่นมักไล่ภรรยาและลูกที่คอยดูแลคอยนั่งเฝ้าให้ไปนอน ไปทำการบ้าน ไปอ่านหนังสือ

วันสุดท้ายของชีวิต เมื่อคุณชาตื่นกลางดึกเขาไล่ภรรยาและลูกให้ไปนอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้งฟังแทบไม่รู้เรื่อง จากนั้นเริ่มสวดมนต์ ก่อนจากโลกนี้ไปเมื่อเสียงสวดมนต์สิ้นสุด นับเป็นเวลาหนึ่งปีเศษในการรักษาตัว

คุณชาจากไปพร้อมความอาลัยรักของทุกคนที่รู้จัก อย่างไรก็ตาม ก่อนจากไป 1 เดือน เขามีความสุขสมหวังเมื่อได้เห็นบ้านหลังใหม่ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองเสร็จสมบูรณ์ เป็นอนุสรณ์แทนความรักความห่วงใยที่เขามีต่อภรรยาและลูก

บทเรียนของมะเร็งกระเพาะอาหารจากชีวิตคุณชาอาจมีหลายข้อ แต่สำหรับผู้เขียนอยากบอกแค่ว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กดจุดใบหู ช่วยลดหิว กระเพาะอาหารแข็งแรง

10 สูตรยา พอก กิน ทา รักษากระเพาะอาหาร

กินเสี่ยง โรคกระเพาะอาหาร

อาการแบบนี้ โรคกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งกระเพาะอาหารกันแน่

 

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.