น้ำตาลผลไม้, เบาหวาน

ชัวร์หรือมั่ว : น้ำตาลจากผลไม้ คือน้ำตาลที่ปลอดภัย

น้ำตาลผลไม้ : คือน้ำตาลปลอดภัยจากเป็นโรคเบาหวาน

น้ำตาลผลไม้ เชื่อกันว่ากินแล้วไม่อ้วน ปลอดภัย ผู้ป่วยเบาหวานกินได้ แต่จะจริงหรือมั่วนิ่ม เราลองมาเช็กกันก่อนดีกว่า

น้ำตาลจากผลไม้ : ปลอดภัยจากเป็นเบาหวาน

Fact:ไม่จริง

ผู้ป่วยเบาหวานหลายคนจําต้องตัดใจจากขนมหวานของโปรด เพื่อควบคุมระดับน้ําตาลไม่ให้เพิ่มขึ้นด้วยเหตุนี้ ผลไม้จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะใครๆต่างก็คิดว่าผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายแถมยังให้แคลอรีต่ํากว่าขนมหวานอีกด้วย

แต่ในความเป็นจริง อาจารย์สุระภี เสริมพณิชกิจ กรรมการสมาคมนักกําหนดอาหารแห่งประเทศไทยและที่ปรึกษาด้านโภชนบําบัด ฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลรามาธิบดี เคยกล่าวไว้ว่า พฤติกรรมการกินผลไม้ของผู้ป่วยเบาหวานกลับกลายเป็นตัวการหนึ่งที่ทําให้น้ําตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิม เนื่องจากในผลไม้มีน้ําตาลฟรักโทส (Fructose) ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ําตาลกลูโคส และทําให้ระดับน้ําตาลในเลือดสูงขึ้นได้

 

ผลไม้กับผู้ป่วยเบาหวาน

 

ข้อมูลจากหนังสือเรื่อง โภชนาการกับผลไม้ ระบุถึงข้อควรระวังในการกินผลไม้สําหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพิ่มเติมว่า “สําหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถึงแม้จะมีรายงานว่า ผลไม้ส่วนใหญ่มีค่าดัชนีน้ําตาลต่ํา แต่ข้อมูลเกี่ยวกับค่าดัชนีน้ําตาลของผลไม้ยังมีไม่ครบถ้วน ดังนั้นถึงแม้ผู้ป่วยเบาหวานจะสามารถเลือกรับประทานผลไม้ได้หลากหลายชนิด แต่ควรระมัดระวังเรื่องปริมาณและชนิดของผลไม้ที่บริโภคด้วย”

 

อ่านเพิ่มเติม: คู่มือกินน้ำตาลทราย น้ำตาลอ้อย น้ำตาลปี๊บ ป้องกันโรคเบาหวาน

How to Fix : น้ำตาลผลไม้ปลอดภัยจากเป็นเบาหวาน

อ่านข้อมูลด้านบนแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจจนไม่กล้ากินผลไม้ เพราะน้ําตาลในผลไม้ไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด เพียงแค่เรารู้จักปรับวิธีกินให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมก็เป็นอันใช้ได้
เริ่มจากปฏิบัติตามคําแนะนําของอาจารย์สุระภี ที่กล่าวถึงหลักการกินผลไม้ในหนึ่งมื้อสําหรับผู้ป่วยเบาหวาน คือ…ผลไม้รสหวานจัด เช่น มะม่วงสุก กล้วยหอม กินได้ 6 คํา
ผลไม้รสหวานปานกลาง เช่น ลิ้นจี่ องุ่น สับปะรดกินได้ 8–10 คํา ผลไม้รสหวานน้อย เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แก้วมังกร กินได้ 10–15 คํา

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกกินผลไม้เพียงมื้อละ 1 ชนิด วันละ 2 – 3 ครั้งหลังอาหาร เพราะการกินผลไม้ครั้งละมากๆ แม้จะเป็นผลไม้ที่ไม่หวาน ก็อาจทําให้น้ําตาลในเลือดขึ้นสูงได้ นอกจากนั้นควรเลี่ยงผลไม้ตากแห้ง ผลไม้กวน ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม และผลไม้กระป๋องควรกินผลไม้สด เพราะจะช่วยควบคุมอาการเบาหวานได้ดี โดยก่อนจะเลือกกินผลไม้ ลองดูปริมาณน้ําตาลดังตารางต่อไปนี้

โรคเบาหวานกับน้ำตาลจากผลไม้
ผลไม้แต่ละชนิดให้น้ำตาลแตกต่างกันออกไป ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม

ตัวอย่างปริมาณน้ําตาลในผลไม้100 กรัม (เฉพาะส่วนที่กินได้)

ผลไม้ ปริมาณน้ําตาล (กรัม)

  • กล้วยหอม  20.3
  • ขนุน 19.1
  • กล้วยน้ําว้า 18.3
  • ลิ้นจี่จักรพรรดิ 17.9
  • มังคุด 17.5
  • น้อยหน่าหนัง 17.2
  • กล้วยไข่ 16.6
  • ลองกอง 15.2
  • องุ่นเขียว 14.7
  • ส้มโอขาวน้ําผึ้ง 14.6
  • มะม่วงน้ําดอกไม้สุก 13.9
  • ส้มสายน้ําผึ้ง 10.5
  • แอ๊ปเปิ้ลเขียว 10.0
  • ส้มเช้ง 9.5
  • ชมพู่ทับทิมจันทร์ 8.8
  • แก้วมังกร 8.6
  • แตงโมจินตหราแดง 8.0
  • ทุเรียนหมอนทอง 7.9
  • ฝรั่ง 7.2
  • แอ๊ปเปิ้ลฟูจิ 6.2
  • สาลี่น้ําผึ้ง 4.7
    (ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือโภชนาการกับผลไม้)

ความเชื่อโรคเบาหวานกับน้ำตาลผลไม้ : คือน้ำตาลปลอดภัยจากเป็นโรคเบาหวาน นั้นไม่จริงเสมอไปครับ

อ่านเพิ่มเติม : SUPER HERB : ลดระดับน้ำตาลในเลือด

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.