ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งรังไข่มีดังนี้ค่ะ
- ผู้หญิงที่มีไข่ตกทุกเดือน เชื่อว่ามะเร็งรังไข่เกิดจากบาดแผลที่รังไข่ จากไข่ตกทุกเดือน หากไข่ไม่ตก เช่น กินยาคุมกำเนิด มีลูก ให้นมลูก นาน จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่
- อ้วนหรือเป็นโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovarian Disease) มีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่สูงกว่าคนทั่วไป 1.1 – 1.5 เท่า
- อายุมาก อายุเฉลี่ยของคนที่เสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ คือ 63 ปี แต่เกิดได้ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 20 ปี โดยมีโอกาสเกิดประมาณ 1 : 10,000 ราย หากอายุมากกว่า 50 ปี มีโอกาสเกิด 21.8 – 56.7 : 10,000 ราย
- ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงหรือสมุนไพรทดแทน หลังหมดประจำเดือน เสี่ยงเป็น 1.6 เท่าของคนที่ไม่รับ
- มีลูกยากหรือไม่มีลูก เสี่ยงเป็น 2.76 เท่าของคนที่มีลูก
- มีประจำเดือนก่อนอายุ 12 ปี เสี่ยงเป็น 1.07 เท่า หมดช้ากว่า 52 ปี เสี่ยงเป็น 1.46 เท่าของคนทั่วไป
- เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือช็อกโกแลตซีสต์ เสี่ยง เป็น 1.02 – 2.11 เท่าของคนที่ไม่เป็น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม มียีนกลายพันธุ์กลุ่ม BRCA หรือกลุ่มอื่น เสี่ยงเป็น 5.2 – 12 เท่าของคนที่ไม่มี
- สูบบุหรี่ เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ชนิดผลิตมูก (Mucinous) เป็น 2.1 เท่าของคนไม่สูบ
- ได้รับสารเคมี เช่น ทาแป้งที่มีสารทาลคัม (Talc) ที่อวัยวะเพศ เสี่ยงเป็น 1.33 เท่าของคนไม่ทา
- อาหาร งานวิจัยส่วนใหญ่ไม่พบความสัมพันธ์ ระหว่างอาหารกับการเกิดมะเร็งรังไข่ มีงานวิจัย ส่วนน้อยที่พบว่า การกินนม เนย และอาหารหวาน เป็นประจำก่อความเสี่ยงมากกว่าคนไม่กิน 1.13 เท่า
ปัจจัยป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่
- คุมกำเนิด ด้วยยาเม็ดคุมกำเนิด ลดการเกิด มะเร็งรังไข่ ร้อยละ 27 ทำหมัน ลดลงร้อยละ 24
- มีลูก ลดการเกิดมะเร็งรังไข่ ร้อยละ 29 ให้ นมลูก 6 – 12 เดือน ลดลงร้อยละ 28
สำหรับจดหมายที่ถามมา คุณยังอายุน้อยโอกาส เกิดมะเร็งจึงน่าจะน้อยมาก แพทย์ก็ยังไม่ได้ยืนยัน เพียงแต่บอกว่ามีความเสี่ยง การจะวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ต้องอาศัยการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา ซึ่งต้องใช้ เวลาอ่านผล 1 – 2 สัปดาห์ ไม่ได้วินิจฉัยตามอาการ หรือการดูชิ้นเนื้อด้วยตาเปล่า ดังนั้นคงต้องรออย่าง ใจเย็น รับมือกับความเครียดด้วยวิธีที่ได้ผลสำหรับ ตนเอง ซึ่งเป็นไปตามความชอบความถนัด เช่น สวดมนต์ เข้าวัด ทำบุญ สังสรรค์เพื่อนฝูง ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย ฯลฯ แต่หากแพทย์สรุป ผลชิ้นเนื้อแล้วยืนยันว่าเป็นมะเร็งจริง คงต้องตั้งสติ ให้มั่น การรักษากายเป็นหน้าที่ของแพทย์ ซึ่งปัจจุบัน มีความก้าวหน้าในการรักษามาก ส่วนการรักษาใจเป็น หน้าที่ของเราเอง คนที่มองโลกในแง่บวก มีศรัทธา มีความเชื่อทางศาสนา เข้าถึงสัจธรรมชีวิต มีคนดูแล มีคนรัก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมักจะมีพลัง ทำให้ผ่าน วิกฤตการเป็นมะเร็งไปได้อย่างเข้มแข็ง หากไม่สามารถ ผ่านได้ก็ต้องจากไปอย่างสงบสุข
จาก คอลัมน์ เปิดห้องหมอสูติ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 467
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ครบเครื่องเรื่องมะเร็งรังไข่ ที่คุณผู้หญิงควรรู้ไว้ รับมือได้แน่นอน
ป้องกันมะเร็งรังไข่อย่างไร เรียนรู้ก่อนจะสาย
