จัดการกินยับยั้งพิษเคมี
อาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเดิน เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเบื่ออาหารและกินลดลง โดยมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย (Thai Society of Clinical Oncology) ให้ข้อมูลว่า คลื่นไส้อาเจียนเป็นอาการที่พบมากที่สุด เกิดหลังให้ยาเคมีบำบัด 2 – 3 ชั่วโมง บางรายมีอาการต่อเนื่องนาน 2 – 3 วัน
การปรับพฤติกรรมการกินช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ คือ กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม กินอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง ดื่มน้ำก่อนหรือหลังอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แทนการดื่มระหว่างมื้ออาหาร เพื่อจะได้ไม่อิ่มน้ำและกินอาหารได้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารกลิ่นฉุน รสจัด ขนมหวาน ของทอด หรืออาหารที่มีไขมันมาก เพราะจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น
หากมีอาการคลื่นไส้ให้จิบน้ำเปล่า น้ำขิง หรือน้ำมะนาวแช่เย็นเพื่อบรรเทาอาการ หลังกินไม่ควรนอน ควรนั่งพักอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหากยังคงมีอาการคลื่นไส้ให้หายใจเข้าและออกช้าๆ จนอาการดีขึ้นหรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ
หากมีอาการอาเจียนมากจนไม่สามารถกินอาหาร ยา และน้ำได้มากกว่า 1 วัน ควรพบและปรึกษาแพทย์ทันที
ส่วนอาการท้องเดินมีลักษณะถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำมากกว่าวันละ 2 ครั้ง หากมีอาการดังกล่าวหลังได้รับยาเคมีบำบัดควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนสารอาหารที่เสียไป ระหว่างที่มีอาการควรกินอาหารที่มีใยอาหารต่ำ เช่น ข้าวขาว กล้วย ขนมปัง หรืออาหารเหลวแทน เพราะอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ถั่ว ผักสดอาจกระตุ้นให้ท้องเสียมากขึ้น หลีกเลี่ยงนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กาแฟใส่นม หลังอาการท้องเดินลดลงจึงกลับมากินอาหารตามปกติ
หากมีอาการท้องเดินรุนแรง เช่น ถ่ายเหลวติดต่อกัน 8 ครั้งขึ้นไป มีอาการนานเกิน 24 ชั่วโมง ร่วมกับมีไข้และอ่อนเพลีย ควรพบและปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
กินถูกสูตรผู้ป่วยมะเร็งอายุยืนยาว
A Cancer Journal for Cliniciansตีพิมพ์บทความชื่อ แนวทางโภชนาการและการออกกำลังกายสำหรับผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง (Nutrition and Physical Activity Guidelines for Cancer Survivors) โดยแนะนำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการกินอาหารใหม่ ดังนี้
- กินผักและผลไม้เพิ่มขึ้น เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารพฤกษเคมี (Phytochemical) ช่วยต้านการอักเสบและป้องกันโรคมะเร็ง
- เลือกโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ เช่น เนื้อปลา ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่อุดมด้วยไขมันดี เป็นแหล่งพลังงาน ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
- กินธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต แทนธัญพืชขัดขาวที่ขัดวิตามินและสารอาหารออกไปจนเกือบหมด
- เลือกกินไขมันที่มีประโยชน์ ได้แก่น้ำมันมะกอกและถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท ฮาเซลนัท ช่วยลดโอกาสที่โรคมะเร็งจะกลับมาและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
นอกจากปรับเปลี่ยนอาหารแล้วควรออกกำลังกายร่วมด้วย ดังรายงานจาก The Journal of the American Medical Association พบว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่หันมากินอาหารสุขภาพและกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น หากออกกำลังกายโดยเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 6 วันร่วมด้วยจะยิ่งมีอายุยืนยาวมากกว่าผู้ป่วยที่ปรับเปลี่ยนอาหารเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ยังมีผลงานวิจัยออกมาเตือนด้วยว่าหากผู้ป่วยหายจากโรคมะเร็ง แต่กลับมากินเนื้อแดง เนื้อสัตว์แปรรูป ข้าวไม่ขัดขาวและขนมหวานไขมันสูง อาจต้องระวังโรคมะเร็งย้อนกลับมา