ติดหวาน, ไมเกรน, ไฮโปไกลซีเมีย, กินหวาน, ของหวาน

เช็ก + แก้โรคฮิตคน ติดหวาน ด้วยชีวจิต

ไมเกรน…ปวดจากความหวาน

หากจะพูดถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับการกินหวานมากเกินไปเราคงไม่พลาดที่จะเอ่ยถึงไมเกรน โดยอาจารย์สาทิสกล่าวถึงไมเกรนว่า

มีรายงานจาก Adrenal Metabolic Research Societyจากทรอย มลรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า ผู้ที่แพ้อาหารและมีอาการปวดหัวไมเกรนมักเป็นเพราะกินอาหารประเภทเนยแข็งของหวาน เช่น เค้ก ไอศกรีม ช็อกโกแลต มากเกินไป

 

ไมเกรน…ความปวดจากกินน้ำตาลเกิน

เริ่มต้นผู้ที่แพ้อาหารเหล่านี้จะป่วยด้วยโรคไฮโปไกลซีเมียหรือน้ำตาลในเลือดต่ำก่อน ต่อจากนั้นจึงจะตามมาด้วยอาการปวดหัวไมเกรน เมื่อแพทย์แนะนำให้หยุดกินอาหารประเภทดังกล่าว ผู้ป่วยก็หายจากการปวดหัวไมเกรนได้โดยไม่ต้องใช้

สำหรับคนไทยอีกมากมายซึ่งเป็นโรคปวดหัวไมเกรน ผมก็ได้พบสาเหตุเช่นเดียวกับพวกฝรั่ง คือ คนไทยเรานั้นกินอาหารหวานและติดอาหารหวานมากมายกว่าฝรั่งหลายเท่านัก เมื่อผมแนะนำให้ผู้ที่ปวดหัวไมเกรนเปลี่ยนอาหารและเลิกกินหวาน ก็ปรากฏว่า ผู้ป่วยหลายคนหายจากอาการปวดหัวไมเกรนได้

โดยอาการปวดหัวไมเกรนนั้น เนื่องมาจากเส้นเลือดที่กะโหลกศีรษะและสมองหดตัว และขยายตัวอย่างรวดเร็วและระหว่างการหดและการขยายตัวนั้น เส้นเลือดจะเกิดการอักเสบ จึงทำให้เกิดการปวดหัวแบบไมเกรนขึ้นได้อาการแรกของปวดหัวไมเกรนคือ สายตาจะเกิดมืดมัวล่วงหน้า ทั้งนี้เพราะขณะที่เส้นเลือดบีบตัวนั้น เลือดที่ไปเลี้ยงกระบอกตาจะมีปริมาณน้อยลง จึงทำให้ตามัว หลังจากเส้นเลือดบีบตัวแล้ว สักพักหนึ่งก็จะขยายตัว พอขยายตัว เลือดก็จะวิ่งขึ้นไปสู่หัวและสมองอย่างรวดเร็ว จึงเกิดอาการปวดหัวแบบไมเกรนขึ้น

การปวดหัวแบบไมเกรนต่างจากการปวดหัวทั่วไปก็ตรงที่อาการปวดหัวไมเกรนมักจะเกิดอาการที่ตาก่อน อาจมีอาการตามัวหรือเห็นแสงวูบวาบอยู่พักหนึ่ง เป็นเวลาตั้งแต่หลายนาทีจนกระทั่งหลายชั่วโมง แล้วจึงเกิดอาการปวดหัว พอปวดหัว อาการตามัวหรือสว่างวูบวาบก็หายไป

อาการปวดหัวแบบไมเกรนจะเป็นเหมือนกับการปวดหัวทั่วๆ ไป คือปวดที่ขมับสองข้าง แล้วกระจายไปทั่วหัว บางครั้งก็ปวดตื้อ ๆ บางครั้งก็ปวดตุ้บๆ เป็นระยะๆ แต่อาการผสมซึ่งไม่เหมือนกับการปวดหัวทั่วไปก็คือ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย บางคนก็อาจจะมีอาการแปลกๆ ไม่เหมือนใคร คือ หน้าซีด ตาแดงก่ำ น้ำตาไหลตลอดเวลา และบางคนก็มีอาการน้ำมูกไหลด้วย

ติดหวาน, ไมเกรน, กินหวาน, ปวดหัวไมเกรน, ไฮโปไกลซีเมีย
กินของหวานมากเกินไป เสี่ยงต่อการปวดหัวไมเกรน

HOW TO TREAT

ฉะนั้นเมื่อเกิดอาการปวดหัวไมเกรนและรักษาอย่างไรก็ไม่หาย โดยเฉพาะบางครั้งอาการหนัก

จนต้องนอนซม โงหัวไม่ขึ้น ลุกขึ้นมาเมื่อไรก็อาเจียนแล้ว ขอให้ลองปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้

1. งดน้ำตาลขาวและแป้งขาวต่างๆ โดยเด็ดขาด

2. หลายคนกินหวานและแป้งขาวจนติดเป็นนิสัย ให้เลิกกินหวาน เลิกกินแป้งขาว ก็มักจะเลิกไม่ได้ ถ้าบังคับก็จะเกิดหงุดหงิดอารมณ์เสีย วิธีแก้ก็คือ ลองผสมน้ำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น ดื่มวันละ 2 – 3 แก้ว จะช่วยแก้หงุดหงิดได้

3. ถ้าเป็นคนติดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ให้งดเนื้อนมไข่ชั่วคราว จะกินอาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจชั่วคราวก็ได้ ถ้ากินอาหารเจควรจะตัดเนื้อเทียม หรือมี่กึ้น หรือ Gluten ออกไปจากรายการอาหารเพราะคนแพ้อาหารประเภทนี้ร่างกายย่อยไม่ได้ ทำให้เกิดท็อกซิน ยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้นไปอีก

4. ทำดีท็อกซ์ติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าทำไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ปรากฏว่าอาการดีขึ้นจนเป็นปกติ ก็สามารถหยุดทำดีท็อกซ์เสียตั้งแต่สัปดาห์แรกเลยก็ได้

5. ควรออกกำลังกายอย่างแข็งขันทุกวัน ถ้าไม่ทราบว่าจะออกกำลังกายแบบไหนดี ลองใช้วิธีบริหารด้วยการรำกระบองแบบชีวจิต นอกจากอาการปวดหัวจะหายแล้ว ยังสบายตัวสบายใจอีกด้วย

6. ระหว่างที่เกิดปวดหัวอย่างรุนแรง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบที่ต้นคอและศีรษะ เพื่อให้เส้นเลือดขยายตัว จะทำให้อาการปวดทุเลาลง

6.1 ใช้นิ้วหัวแม่มือสองข้างนวดเบาๆ บริเวณกกหู ใบหู และขมับสองข้าง

6.2 นวดบริเวณนิ้วเท้าทุกนิ้ว แล้วนวดที่เนินใต้นิ้วเท้าทุกเนินด้วย จะทำให้ร่างกายผ่อนคลายและรู้สึกสบายตัว

7. งดกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

8. กินวิตามินเสริม ดังต่อไปนี้

  • วิตามินบีคอมเพล็กซ์ 100 มิลลิกรัม 1 เวลา เช้า
  • วิตามินบี 3 หรือไนอะซินาไมด์ 100 มิลลิกรัม 3 เวลา หลังอาหาร
  • โคโลไมต์ (แคลเซียมและแมกนีเซียม) 1 เม็ด หลังอาหาร (เช้า – เย็น)
  • ใช้สูตรอาหารชีวจิต โดยงดเว้นเนื้อสัตว์ในช่วงสองสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นสามารถกินเนื้อปลาเพิ่มได้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง

จะเห็นได้ว่า การดูแลตัวเองแบบชีวจิตนั้น ต้องเกิดจากทั้งการกิน นอน พักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงานอย่าง ซึ่งจะช่วยบรรเทาโรคให้กับคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างแน่นอน ลองนำไปปรับใช้ดูแลสุขภาพกันสิค่ะ

 

จาก คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 462


บทความน่าสนใจอื่นๆ

เช็ก + แก้ไมเกรน ปวดจากความหวาน

7 เมนูมหัศจรรย์ ป้องกัน โรค ไฮโปไกลซีเมีย

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.