ปวดหัวไมเกรน
ผมพูดถึงปวดหัวไมเกรน คนเขียนเรื่องนี้ก็เกิดอาการ “ปวดหัว” ขึ้นมาทันทีทันควันทีเดียวแหละ เพราะปวดหัวแบบนี้ ในตำราการแพทย์บอกไว้เหมือนกันหมดว่า “หาสาเหตุที่แท้จริง” ไม่ได้
นายแพทย์โซโลมอนผู้นี้เป็นคนย้ำอยู่เสมอว่า “ไมเกรนเป็นโรคที่หาสาเหตุแท้จริงไม่ได้ และยังแถมบอกไว้อีกด้วยว่า โรคปวดหัวรู้สึกจะเป็นโรคประจำตัวของมนุษย์ทุกคน เขาพูดด้วยท่าทีแบบเอามือกุมขมับตัวเองว่า ตั้งแต่เป็นแพทย์มา ยังไม่เคยพบคนไข้สักคนที่ไม่เคยปวดหัวมาเลยในชีวิตนี้” ไม่รู้หมอโซโลมอนเองก็เคยปวดหัวมาด้วยหรือเปล่า
ตามตำราเรื่องปวดหัวไมเกรนระบุไว้ว่า คำว่า “ไมเกรน” (migraine) เป็นภาษากรีก และได้พูดถึงโรคปวดหัวไมเกรนนี้ว่า รู้จักกันมาเกือบสองพันปีแม้แต่ชนเผ่าโบราณซูเมอเรียนสมัยเมโสโปเตเมียเมื่อหกพันปีก่อน ก็กล่าวถึงการปวดหัวแบบไมเกรนเช่นกัน รวมทั้งบันทึกจากหลุมศพของฟาโรห์อาคีนาโตนแห่งอียิปต์ ก็ยังพูดถึงการปวดหัวอีกเช่นกัน แถมในจารึกของฟาโรห์นี้ยังบอกถึงตำรายาแก้ปวดหัว โดยใช้หนังช้างน้ำตากแห้งป่นละเอียดผสมกับเม็ดฝิ่น เพื่อแก้ปวดไมเกรนไว้ด้วย
แต่ก่อนที่จะระบุอาการต่างๆ ของไมเกรน ซึ่งพูดกันถึงปวดหัวแบบทารุณนี้ ไว้ในตำราการแพทย์อันเป็นที่ยอมรับกันนั้น ไมเกรนรู้จักกันแต่เป็นการปวดหัวซึ่งแสดงอาการป่วย (sick headache) เท่านั้น
เอาละครับ ลองมาดูซิว่า ปวดหัวไมเกรนนั้นมันต่างกัปวดหัวทั่วไปอย่างไร
– ปวดแบบตุบๆ และมักจะปวดหัวข้างเดียว
– การปวดจะปวดอย่างรุนแรง หลายคน (ผู้หญิง) บอกว่าปวดทนไม่ไหว จนต้องร้องไห้
– เวลาปวดจะทนแสงสว่างไม่ได้
– ทนเสียงอึกทึกเอะอะไม่ได้
– ตอนแรกๆ จะปวดเพียงชั่วโมงหรือสองชั่วโมง แต่ตอนหลังๆ ปวดหลายวันติดต่อกันก็มีมาก
– บางคนเวลาปวดจะเห็นแสงวอบแวบ หรือบางคนอาจจะได้กลิ่นแปลกๆ ซึ่งอธิบายไม่ได้ว่าคืออะไร
– จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
– มีอาการหนาวสั่น (บางคน)
– ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่เอาแต่กินยาแก้ปวดหัวอย่างเดียว
– หลังจากหายปวดหัวแล้ว ผู้ป่วยมักจะรู้สึกสมองตื้อ ปวดต้นคอ และอยากจะนอนนานๆ
นี่คืออาการทั่วๆ ไป แต่ก็อีกนั่นแหละ อาการทั่วไปอย่างนี้แหละที่ทำให้แพทย์ปวดหัว เพราะเมื่อตรวจร่างกายหลายๆ แบบเช่น ตรวจเลือด ตรวจหัวใจ แม้แต่เอกซเรย์ ก็จะไม่สามารถพบสาเหตุเกี่ยวข้องโดยตรงแต่อย่างใด
แต่มีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ข้อหนึ่งจากกลุ่มแพทย์ของนายแพทย์โซโลมอนนี้ มีรายงานว่า ได้พบคนไข้ปวดหัวแบบไมเกรนนี้ เส้นเลือดบริเวณศีรษะจะขยายมากกว่าปกติ
โดยเหตุนี้ แพทย์บางคนที่พบว่าคนไข้ปวดหัวแบบเรื้อรังและมีเส้นเลือดขยายโต แพทย์จึงให้กินยาประเภทที่จะทำให้เส้นเลือดบีบตัว ปรากฏว่าช่วยแก้อาการปวดหัวของคนไข้ได้
ที่น่าสนใจก็คือ แก้การปวดหัวชั่วขณะได้ แต่ไม่สามารถรักษาโรคปวดหัวไมเกรนได้ วันหลังคนไข้ที่หายปวดหัวแล้วก็กลับเกิดปวดหัวขึ้นมาอีก
เมื่อมีการศึกษาและซักถามประวัติคนไข้โดยละเอียดต้องการทราบว่าคนไข้เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดใดหรือเปล่า และภูมิแพ้ชนิดใดนั้นจะเกี่ยวข้องกับการปวดหัวไมเกรนหรือไม่
ปรากฏว่า คนไข้หลายคนมีอาการปวดหัวซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้หลายอย่าง เช่น คนไข้หลายคนกินอาหารประเภทแป้งขาวมากเกินไป หรือบางคนก็กินอาหารประเภทมีสารไอโอดีน (เช่นอาหารทะเล) มากเกินไป บางคนก็กินเหล้าเป็นประจำ และพวกที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว ตกใจง่ายๆ เช่น ได้ยินเสียงดังก็สะดุ้งเจอไฟแวบๆ หรือสว่างจ้าก็ทนไม่ไหว มักจะเกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้ง่ายๆ เช่นกัน
นอกไปจากนั้น อาการปวดหัวไมเกรนมักจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันกับผู้ที่แพ้ยาต่างๆ อย่างเช่นผู้ป่วยมะเร็ง ไม่เคยปวดหัวมาก่อนเลย พอโดนยาคีโม จะเป็นยาฉีดหรือยากิน ก็มักจะเกิดอาการปวดหัวและคลื่นไส้อาเจียนขึ้นมาทันที ปวดหัวไมเกรนแบบนี้จะว่าเป็นไมเกรนเทียมก็ว่าได้ เพราะแต่ก่อนไม่เคยปวดหัวมาก่อน แต่พอโดนยาเหล่านี้เข้าก็เกิดการปวดหัวขึ้นมา
ปวดหัวแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดแก่ผู้ที่ต้องโดนยาคีโมอย่างเดียวยาอื่นๆ ซึ่งรักษาโรคต่างๆ นั้น ถ้าเป็นยาแก้ปวด?ยาแรงๆ เช่นรักษาวัณโรค หรือยาบางอย่างที่วันหนึ่งต้องกินหลายเม็ด (ตั้งแต่ 4 เม็ดขึ้นไป) ก็จะเกิดปวดหัวได้ทั้งสิ้น
ทีนี้ก็มาถึงเรื่องอายุของกลุ่มคนอีกด้วย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่มีอายุเข้าวัยทอง ซึ่งอาการวัยทองมีอาการผิดปกติทางร่างกายและจิตใจหลายอย่าง หลายท่านไม่ได้เตรียมตัวจะแก้ไขหรือตั้งรับอาการเหล่านี้ ต้องระวังตัวหน่อยนะครับ เพราะอาการปวดหัวจะเข้ามาโจมตีอย่างฉับพลันได้
และคุณผู้ชายก็ต้องระวังตัวด้วย ท่านที่มีวัยย่าง 50 หรือกว่านั้นคุณผู้ชายก็จะมีอาการวัยทองได้เหมือนกัน วัยทองไม่ได้หมายถึงคุณผู้หญิงอย่างเดียว คุณผู้ชายถึงแม้จะไม่มีประจำเดือนเหมือนอย่างผู้หญิง แต่พออายุเริ่ม 50 – 60 จะมีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและฮอร์โมนเพศ รวมทั้งอารมณ์ก็จะหงุดหงิด โมโหและระแวงอะไรยุ่งไปหมด
โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่เป็นใหญ่เป็นโต ถึงเวลาจะเกษียณอายุต้องระวังเรื่องของอารมณ์และเรื่องของวัยทองให้มากๆ นะครับเตรียมตัวเตรียมใจไว้รับเรื่องเกษียณให้ดีๆ และเตรียมใจว่าตัวกำลังจะหมดอำนาจวาสนาด้วย
เตรียมใจไว้ให้ดีเถิดครับ เตรียมตัวทางร่างกายไว้ด้วยมิฉะนั้น ทั้งวัยทอง ทั้งการหมดอำนาจวาสนา จะทำให้คุณปวดหัวไมเกรนจนรู้สึกหัวแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ทีเดียวเจียว…
จาก คอลัมน์เปิดประตูหลังบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 286
บทความน่าสนใจอื่นๆ
3 เคล็ดลับ แก้ปวดหัวบ่อยจากความเครียด
ปวดหัวไม่หาย มีทางแก้ ทำตามนี้รับรองหายชัวร์
