วิตามินล้างพิษ ช่วยสุขภาพดี หัวจรดเท้า ตอนที่ 1

วิตามินบำรุงดวงตา คนอยู่หน้าจอ

โรคเกี่ยวกับดวงตาถือเป็นปัญหายอดฮิตของ คนทำงานยุคนี้ไปเสียแล้ว เพราะเราใช้งานดวงตา ในการจ้องหน้าจอต่างๆ วันละหลายชั่วโมง อาจารย์ สาทิสแนะวิธีสังเกตอาการผิดปกติของดวงตาไว้ว่า

CHECKLIST

อาการผิดปกติของดวงตาจากท็อกซิน ภายในร่างกาย

1. มองแสงทางกว้างหรือวงกลมดวงไฟไม่เห็น อาจเกิดจากโรคต้อหิน สวมคอนแท็คท์เลนส์ หรือทำงานหน้าจอต่างๆ นานเกินไป
2. ตาค่อยๆ มัวลง อาจเป็นเพราะโรคต้อกระจก อายุมาก หรือสวมแว่นตาไม่เหมาะกับสายตา

อาการผิดปกติของดวงตาจากท็อกซิน ภายนอกร่างกาย

1. กะพริบตาถี่ๆ อาจเกิดจากการถูกสารพิษ ไอปรอท หากคันตายิบๆ อาจเกิดจากการ สัมผัสแก๊สหรือฝุ่นมลพิษ
2. ปวดดวงตาสองข้างน้ำตาไหลตาแดงอาจเพราะโดนควันพิษหรือสัมผัสเครื่อง- สำอาง

ไลฟ์สไตล์ก่อท็อกซิน

นักเขียนโปรแกรม นักเขียนหนังสือ นักแปล นักสถิติ นักวิเคราะห์หุ้น รวมถึงทุกอาชีพที่ทำงานติดหน้าจอตลอดวัน ขอเตือนให้ระวังเสี่ยงเป็นสารพัดโรคดวงตา

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลผ่านบทความ เรื่อง “โรคซีวีเอส” หรือ “คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” (Computer Vision Syndrome) ว่า ผู้ที่จ้องดูข้อมูลบนคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มีโอกาสเป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่น ซินโดรมมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์

อาการที่พบมาก คือ ปวดตา แสบตา ตามัว ตาแห้ง น้ำตาไหล ตาไม่สู้ แสง บางรายมีอาการปวดหัว หรือปวดไหล่ บ่า คอ หลัง ร่วมด้วย หลังจากใช้ คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนานเกิน 2 – 3 ชั่วโมง อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและสามารถ หายเองได้หลังจากได้พักสายตา แต่บางรายอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานจนต้อง ใช้ยาช่วยระงับอาการ

แต่หากเพิกเฉยต่ออาการดังกล่าว ยังทำงานจนละเลยสุขภาพสายตา ในระยะ ยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงสายตาสั้น โรคจอประสาทตาเสื่อม เลนส์ตาเสื่อม และโรค ต้อกระจกได้ เบื้องต้นแนะนำให้ผู้ที่ทำงานติดจอพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง อาจลุกเดิน ไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ หลับตาสักครู่ หรือมองต้นไม้สีเขียวนอกหน้าต่างสัก 10 – 15 นาทีแล้วค่อยทำงานต่อ

VITAMIN GUIDE

สมาคมจักษุแพทย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา (American Optometric Association-AOA) แนะนำ ให้กินอาหารที่มีวิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีนสูง เพื่อ ฟื้นฟูสุขภาพสายตาจากภายใน โดยสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้ง 3 ชนิดนี้เมื่อทำงานร่วมกันจะช่วยชะลอความเสื่อมของ เลนส์ตา สาเหตุของการเกิดโรคต้อกระจก นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy) ในผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย

ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ พริกหวาน มะระขี้นก ผักหวาน ผักคะน้า ฝรั่ง มะละกอสุก ส้มเช้ง วิตามินอีพบมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันมะกอก ถั่วเปลือกแข็ง ต่างๆ ส่วนเบต้าแคโรทีนพบมากในฟักทอง แครอต มะเขือเทศ แตงโม มะละกอสุก

นอกจากนี้หนังสือ วิตามินไบเบิล โดย ดร.เอิร์ล มินเดลล์ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ แนะนำสูตรวิตามินสำหรับผู้ทำงาน หน้าจอต่าง ๆ เป็นพิเศษดังนี้

วิตามินบีรวม ขนาด 50 มิลลิกรัม เช้าและเย็น

แคลเซียม ขนาด 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

แมกนีเซียม ขนาด 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

สารสกัดจากใบแปะก๊วย 60 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

โคเอนไซม์คิว 10 และวิตามินอีรวม

ชนิดละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง

 

วิตามินเยียวยากระเพาะปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์

อวัยวะในระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์ก็เป็นอีกสองระบบที่มักมีอาการผิดปกติให้เห็นอยู่บ่อยๆ อาจารย์สาทิสแนะนำวิธีสังเกตไว้ว่า

CHECKLIST

อาการผิดปกติของระบบสืบพันธุ์และระบบขับถ่ายจากท็อกซินภายใน

1. คันบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ มีอาการเป็นๆ หายๆ อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อเริม
2. ปัสสาวะแสบขัด ปวดหลัง หนาวสั่น เป็นไข้ อาจเกิดจากโรคนิ่วหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการผิดปกติของระบบสืบพันธุ์และระบบขับถ่ายจากท็อกซินภายนอก

1. คันบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ตลอดเวลา อาจเกิดจากการแพ้ผ้าอนามัยที่มีการใส่น้ำหอม หรือเป็นผลข้างเคียงจากการกินยาคุมกำเนิด
2. มีอาการปวดขณะปัสสาวะ ต้องปัสสาวะบ่อยๆ อาจเกิดจากไตทำงานผิดปกติเนื่องจากการสัมผัสสารเคมีบางชนิดตลอดเวลา

ไลฟ์สไตล์ก่อท็อกซิน

ระหว่างทำงาน หากใครขยัน ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้จนกว่างานจะเสร็จ ผลการวิจัยจาก The Journal of Urology เตือนว่าให้ระวังโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

จากการเก็บข้อมูลในผู้หญิงชาวสวิสที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้พบพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ คือ ดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะและอุจจาระเป็นประจำ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ธงชัย พรรณลาภ สาขาวิชาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยาภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แนะนำว่า ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนานเกิน 6 ชั่วโมง และควรดื่มน้ำตลอดวัน วันละ 6 - 8 แก้ว แต่หากมีอาการปัสสาวะบ่อย ครั้งละน้อยๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน ควรไปพบศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะทันที เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

VITAMIN GUIDE

มีรายงานจากวารสาร Acta Obstetricia et Gynecologica Scandinavica พบว่า การเสริมวิตามินซีวันละ 100 มิลลิกรัม ร่วมกับการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษา ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้โดยมีข้อมูลสนับสนุนจากวารสาร Nitric Oxide : Biology and Chemistry และสมาคมจุลชีววิทยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Society for Microbiology) ระบุว่า วิตามินซีอาจมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรคในปัสสาวะ

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 3 >>