โลหิตจาง เลือดจาง เลือดน้อย

ตอบทุกปัญหาคาใจ โลหิตจาง คุณผู้หญิง

ประเภทของโลหิตจางที่พบบ่อยมีดังนี้ค่ะ

1. โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากเหล็กเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญของสารเฮโมโกลบิน ร่างกายผู้ใหญ่ต้องการธาตุเหล็กวันละ 5 – 8 มิลลิกรัม การขาดธาตุเหล็กทำให้ไขกระดูกไม่สามารถสร้างเม็ดเลือด แดงที่สมบูรณ์ได้ เป็นประเภทของโลหิตจางที่พบมากที่สุด

สาเหตุของการขาดธาตุเหล็ก

1.1 รับประทานอาหารไม่เพียงพอ ธาตุเหล็กที่มีคุณภาพดีดูดซึมง่าย มีมากในเนื้อสัตว์ที่มีสีแดง ไข่ นม ถั่ว สำหรับผักใบสีเขียวก็มีธาตุ เหล็กสูงเช่นกัน แต่ดูดซึมได้น้อยกว่า คนที่หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ กิน อาหารไม่ครบหมู่ จึงมักจะเกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก

1.2 มีการเสียเลือดเรื้อรัง เช่น มีเลือดออกจากกระเพาะอาหาร ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ เป็นโรคมะเร็ง ประจำเดือนมามาก มานาน บริจาคเลือดบ่อย ทำให้ขาดธาตุเหล็ก ไขกระดูกจึงไม่สามารถสร้าง เม็ดเลือดแดงที่สมบูรณ์ได้

1.3 มีปัญหาการดูดซึม กระเพาะและลำไส้เล็กเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ ดูดซึมธาตุเหล็ก หากอักเสบ ถูกตัดไป หรือกินยาเคลือบกระเพาะ แคลเซียม น้ำชา กาแฟ จะไปรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก

 

2. โลหิตจางเพราะเป็นโรคเลือด เช่น โรคโลหิตจางทาลัสซีเมีย โรคเม็ดเลือดแตกง่ายจากภาวะพร่องเอนไซม์จี – 6 – พีดี โรคไขกระดูกฝ่อ ไม่สร้างเม็ดเลือด (Aplastic Anemia) ฯลฯ

 

3. โลหิตจางเพราะเสียเลือดมาก เช่น ได้รับอุบัติเหตุตับแตก ม้ามแตก ตกเลือดมากจากการแท้ง การคลอด โรคมะเร็ง ฯลฯ

 

 โลหิตจาง

การรักษา

เมื่อมีภาวะโลหิตจางเกิดขึ้น แพทย์ต้องทำ การตรวจว่าเป็นโลหิตจางประเภทไหน หากเป็นโลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็กซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่ ต้องหาสาเหตุว่า เป็นเพราะอะไร แล้วแก้ไขไปตามสาเหตุนั้นๆ

จดหมายที่ถามมา กรณีที่มีประจำเดือนมากก็ทำให้ โลหิตจางได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีเนื้องอกธรรมดาของมดลูก (Myoma Uteri) ซึ่งนอกจากต้องรักษาเนื้องอกเพื่อไม่ให้ ประจำเดือนมามากแล้ว ควรเพิ่มการกินธาตุเหล็กจากอาหาร และยาเม็ด ส่วนการพักผ่อนไม่เพียงพอไม่ทำให้เกิดภาวะ โลหิตจาง

 

อาหารที่มีธาตุเหล็ก

เป็นอาหารที่ไม่ควรขาด เพราะมัก จะมีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน วิตามินเอ บี ซี ดี อี แคลเซียม แร่ธาตุต่างๆ แต่ ไม่ควรกินในปริมาณมากต่อเนื่องกัน โดยควรเลือกอาหาร ให้หลากหลายในแต่ละวัน

 

5 อาหารอุดมธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะ โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก มีดังนี้ค่ะ

  1. อาหารทะเล เช่น หอย ปู กุ้ง หอยลาย 100 กรัม ให้ธาตุเหล็กถึง 28 มิลลิกรัม
  2. ตับและเครื่องในสัตว์ 100 กรัม ให้ธาตุเหล็ก 6.5 มิลลิกรัม
  3. เนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว 100 กรัม ให้ ธาตุเหล็ก 2.7 มิลลิกรัม
  4. พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง 198 กรัม ให้ธาตุเหล็ก 6.6 มิลลิกรัม
  5. ผักใบเขียว ผักปวยเล้ง (Spinach) 100 กรัม ให้ ธาตุเหล็ก 3.6 มิลลิกรัม แต่ธาตุเหล็กที่ได้จากผักมักจะมี คุณภาพและการดูดซึมด้อยกว่าธาตุเหล็กที่ได้จากเนื้อสัตว์

 

จาก คอลัมน์เปิดห้องสูติ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 465


บทความน่าสนใจอื่นๆ

อาหาร วิตามิน และสมุนไพร แก้โรคโลหิตจาง

วิธีดูแลครรภ์ คุณแม่วัย 40+

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.