แพ้ผื่นคัน, ผดผื่น, อาการแพ้, ภูมิแพ้ผิวหนัง

4 วิธีหยุดอาการ แพ้ผื่นคัน จากภาวะความชื้นสะสม

4 วิธีหยุดอาการ แพ้ผื่นคัน จากภาวะความชื้นสะสม

อาการ แพ้ผื่นคัน ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วย 10 คนจะมีภาวะความชื้นสะสมอยู่ถึง 9 คน ถือเป็นจำนวนที่สูงมากทีเดียว ซึ่งถ้าความชื้นสะสมเกิดขึ้นแล้ว การกำจัดออกจะแสนยาก ดังคำกล่าวในคัมภีร์การแพทย์แผนจีนว่า

“ความเย็นที่สะสมอยู่ปริมาณเป็นพันยังขับออกง่ายกว่าความชื้นที่สะสมอยู่เพียงแค่หนึ่ง” โดยความชื้นที่มีลักษณะเหนียวข้นก็ไม่ต่างไปจากน้ำมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกาย ทั้งยังก่อผลเสียต่อสุขภาพอย่างมหันต์

ความชื้นสะสม, แพ้ผื่นคัน, ผดผื่น, อาการแพ้, ภูมิแพ้ผิวหนัง
ความชื้นสะสม ก่อให้เกิดอาการแพ้ผื่นคันได้

เช็กอาการจากความชื้นสะสม

หากมีภาวะความชื้นสะสมในร่างกายมักก่ออาการผิดปกติ เช่น

  1. รู้สึกว่าหนักตัว หนักหัว ไม่อยากขยับตัวหรือเคลื่อนไหวตัว
  2. มีเสมหะ น้ำลายเหนียว ปัสสาวะขุ่น ถ่ายเหลวเหนียวไม่เป็นก้อน
  3. มีฝ้าบนลิ้นหนาเหนียว ถ้าร่างกายเย็น ฝ้าบนลิ้นจะเป็นสีขาวหรือดำ ถ้าร่างกายร้อน ฝ้าบนลิ้นจะเป็นสีเหลือง
  4. หากความชื้นสะสมอยู่ในร่างกายนานๆ อาจเกิดผดผื่นคัน มีอาการแพ้ง่าย มีกลิ่นเท้า
  5. มีผื่น แผลติดเชื้อ เป็นหนองในร่มผ้าหรืออวัยวะเพศ และตกขาวในผู้หญิง
  6. ปวดเมื่อยตามข้อ โดยเฉพาะเมื่อฝนตก อาการจะหนักขึ้นในผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ พลังลมปราณและเลือดน้อย บางรายมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย ถึงขั้นแค่ได้กลิ่นอาหารที่มันๆ คาวๆ ก็รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน

 

4 เทคนิคขับความชื้นด้วยตนเอง

มีเทคนิคขับความชื้นด้วยตนเองมาแนะนำดังนี้   

1. งีบช่วงพักกลางวัน คลายความอ่อนล้า

การงีบในช่วงพักกลางวันหรือพักเบรกจะช่วยผ่อนคลายความอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ที่พร้อมจะจู่โจมพลังลมปราณและเลือดของเราได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความชื้นสะสมอยู่ภายในร่างกายและร่างกายไม่มีแรงที่จะขับออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ใช้ชีวิตกลางคืน กินอาหารมื้อดึก ทำงานรอบดึก ทำให้พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ การงีบหลับในตอนกลางวันจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การงีบ, ความชื้นสะสม, แพ้ผื่นคัน, ผดผื่น, อาการแพ้
งีบหลับระหว่างวัน ช่วยขับความชื้นสะสมในร่างกายได้

2. กัวซาแผ่นหลังเพื่อขับความชื้นระบายความร้อน

แผ่นหลังช่วงบน 1/3 เป็นบริเวณที่ถูกลมกระทบได้ง่ายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นหวัดและปวดเมื่อย ดังนั้นการกัวซาบริเวณเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างถัดจากกระดูกสันหลังแนวกลางลำตัวออกมา 1.5 และ 3 ชุ่น (นิ้ว) โดยทาน้ำมันหรือยาหม่องก่อนแล้วขูดจากต้นคอลงมาถึงบั้นเอวส่วนล่าง เส้นละ 5 – 8 ครั้ง นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยขับความชื้นระบายความร้อนได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง

3. กินอาหารบำรุงม้ามและขับปัสสาวะ

ควรกินอาหารที่มีสรรพคุณในการบำรุงม้ามและขับปัสสาวะ เช่น

  •  ลูกเดือย เป็นอาหารย่อยง่าย ลดภาระของกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ ช่วยบำรุงม้าม ขับความชื้น เสริมการทำงานของไต สามารถหุงกินแทนข้าวได้เลย
  •  ถั่วแปบ ช่วยบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย ลดไข้ แก้อาการแพ้ นำมาต้ม ผัด ทำแกงส้มก็อร่อย
  •  ผักโขมจีน ชาวจีนนิยมกินผักโขมในฤดูร้อนเพื่อช่วยลดความร้อนและขับความชื้นในร่างกาย ใช้รากรักษาอาการหวัดและขับปัสสาวะ จะนำมาผัด ต้มกิน หรือใส่ในสุกี้ก็ได้

4. ลดการกินเกลือเพื่อบำรุงไต ขับสารน้ำ

การขับสารน้ำอาจทำได้โดยลดการกินเค็ม ลดปริมาณเกลือน้ำปลา ซอสปรุงรส ในการปรุงอาหาร เพื่อลดภาระของไตในการขับสารน้ำ ซึ่งถ้าหากไตอ่อนแอ ทำงานไม่ปกติ ปริมาณโซเดียมในเลือดจะมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำตามมา

ลองเช็กอาการและปรับเปลี่ยนวิธีดูแลสุขภาพของตัวเองกันนะคะ

 

จาก คอลัมน์หมอจีนประจำบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 443


บทความน่าสนใจอื่นๆ

รู้จักกันไหม ผื่นคัน ผื่นแพ้ จากความชื้นสะสม อันตรายหรือไม่อย่างไร มาดูกัน

12 วิธีแก้ผื่นที่มือ

วิธีเช็ค โรคผื่นผิวหนังอักเสบ เสี่ยงมะเร็ง

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.