อาหารต้านโรคหัวใจ

แพทย์แนะนำ กิน-อยู่ ให้ห่างไกลโรคหัวใจ

อาหารเพื่อผู้ป่วยโรคหัวใจ

คุณหมอนิธิอธิบายว่า กรณีที่ป่วยเป็นโรคหัวใจหรือโรคอื่นๆที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ได้แก่ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง มีแนวทางปรับอาหารดังนี้

• จำกัดปริมาณอาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาล ถ้าเป็นกลุ่มอาหารพลังงานสูง สารอาหารต่ำ ให้งดเด็ดขาดจะดีกว่า แนะนำให้เปลี่ยนไปกินแป้งที่มีโมเลกุลเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ และต้องคุมปริมาณอาหารโดยรวม ไม่ควรกินเกิน

• กรณีที่มีระดับไขมันในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์และลดปริมาณไขมันจากพืช เรื่องการกินไขมัน คนก็เข้าใจผิดกันมาก ตัวอย่างเช่น น้ำมันมะกอกเป็นไขมันดี แต่ถ้าเอาไปปรุงโดยผ่านความร้อนสูงๆก็จะกลายเป็นไขมันไม่ดีน้ำมันที่เป็นไขมันดีและมีจุดเดือดสูงหน่อยก็มี เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันรำข้าว

กรณีน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งช่วงหลังกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค แต่ถ้ากินมากไปก็ทำให้ไตรกลีเซอไรด์สูงได้ เกณฑ์ที่กรมอนามัยระบุให้กินไขมันได้เพียงวันละ 6 ช้อนชา นับว่าน้อยมาก ถ้ากินเกินก็ก่อโรคแน่นอน

โรคหัวใจ

งดปรุงแต่งรส  ช่วยลดโรค

จากประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยกว่า 20 ปีทำให้คุณหมอนิธิเห็นต้นตอก่อโรค

• ปรุงแต่งรสเกินพอดดังนี้ ปัจจุบันการทำให้อาหารอร่อย ใช้เทคนิคเพียง 3 ข้อ หนึ่ง ความมัน ทำให้อาหารนุ่ม กรอบ มีกลิ่นหอมชวนกิน
สอง ความหวาน ทำให้คนเสพติด และสาม ความเค็ม กระตุ้นต่อมรับรส เมื่อเน้นปรุงแต่งรสชาติให้จัดจ้านรวม 3 ข้อ จึงทำให้มีปริมาณไขมัน โซเดียม และน้ำตาลในแต่ละจานสูงมาก

• โซเดียมแฝงในอาหาร มีอาหารบางประเภทที่รสไม่จัด แต่มีโซเดียมสูง ได้แก่ ขนมปัง เค้ก เบเกอรี่ เมื่อกินสะสมเข้าไปทุกวันๆ ทั้งไขมันเบาหวาน ความดันโลหิตสูงก็มา ไม่นานโรคหัวใจก็จะตามมาด้วย

ส่วนแนวทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร คุณหมอนิธิเสนอให้ปฏิบัติดังนี้

• กินหลากหลายและหยุดก่อนอิ่ม อย่ากินอาหารซ้ำๆ เน้นกินหลากสีครบ 5 หมู่ แต่ต้องควบคุมปริมาณโดยหยุดก่อนอิ่ม อย่าไปเสียดาย
และตักอาหารครั้งละน้อยๆ

• ทำกินเอง สาเหตุที่ควรทำอาหารเองเพื่อจะได้ควบคุมการเติมสารปรุงแต่งรสต่างๆให้น้อยที่สุด รู้ที่มาที่ไปของวัตถุดิบต่างๆ และยังช่วย
ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้

• เน้นผักผลไม้ แนวทางการกินผัก ผลไม้ ธัญพืช (Plant Based Diet) ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ เพราะมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมต่ำ แต่ผู้ป่วยมักบอกว่าไม่อร่อย เพราะเขาติดรสชาติจัดจ้าน ขอให้ลองปฏิบัติตามข้อถัดไป

• ฝึกกินอาหารปราศจากการปรุงแต่ง ผมขอเสนอว่า ให้ลองกินไปเรื่อยๆ ยิ่งถ้าลดการปรุงแต่งจะยิ่งรับรสชาติได้ละเอียดขึ้น ไวต่อรส
ธรรมชาติของอาหารแต่ละประเภทมากขึ้น เราจะรู้ได้เลยว่า ส้มที่ซื้อมาพร้อมกันมีรสหวานไม่เท่ากันในแต่ละลูก ตัวผมเองก็ทำแบบนั้นครับ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หยุด โรคอ้วน โรคหัวใจ ด้วยการปรับวิถีชีวิตตามศาสตร์จีน

ไม่อยากเป็น โรคหัวใจ ออกกำลังกายแบบนี้สิ

กฎเหล็ก ป้องกันโรคหัวใจ

โรคหัวใจ ออกกำลังกายได้หรือไม่

 

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.